Abstract:
ผู้วิจัยได้ทำการศึกษากรณีของบริษัทจัดจำหน่ายรองเท้าแฟชั่นสตรี ซึ่งปัจจุบันกำลังประสบปัญหาการมีสินค้าคงคลังที่เสื่อมสภาพเป็นจำนวนมาก ซึ่งสินค้าที่ทำรายได้หลักของบริษัทมีสัดส่วนไม่ถึง 50% ของสินค้าคงคลังทั้งหมด ในขณะที่ระดับการให้บริการลูกค้าอยู่ในระดับ 90% งานวิจัยฉบับนี้จึงมีวัตถุประสงค์เพื่อปรับปรุงนโยบายการสั่งซื้อและการจัดเก็บสินค้าคงคลังประเภทที่มีความหลากหลายมากเพื่อลดปริมาณ รวมถึงต้นทุนสินค้าคงคลังในขณะที่ยังสามารถรักษาระดับการให้บริการลูกค้าให้อยู่ในระดับที่ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 95 การศึกษาเริ่มจากการจัดลำดับความสำคัญของสินค้าด้วยวิธี ABC Classification และเลือกสินค้าที่มีความสำคัญที่สุด 126 SKU มาดำเนินการหานโยบายการสั่งซื้อที่เหมาะสมด้วยการสร้างแบบจำลองสถานการณ์มอนติคาร์โล ภายใต้สถานการณ์ที่มีปริมาณความต้องการและระยะเวลาสั่งซื้อแบบไม่คงที่ โดยได้เปรียบเทียบผลการกำหนดนโยบายระหว่างแบบปริมาณการสั่งคงที่ (Q Model) และรอบการสั่งคงที่ (P Model) พร้อมทั้งเปรียบเทียบผลลัพธ์ของนโยบายใหม่ที่กำหนดกับนโยบายปัจจุบัน เพื่อสรุปและกำหนดเป็นนโยบายที่เหมาะสมในการสั่งซื้อสินค้าในอนาคต โดยได้ใช้ข้อมูลยอดขายปี 2562 และ 2563 จากการศึกษาพบว่านโยบายแบบรอบเวลาการสั่งคงที่ (P model) โดยกำหนดรอบเวลาให้สั่งสินค้ากลุ่ม A B และ C ทุก 2 เดือน ในขณะที่กำหนดระดับการให้บริการที่ 99% เมื่อเทียบกับนโยบายปัจจุบัน สามารถลดต้นทุนรวมได้ 22.66% ในปี 2562 และ 7.19% ในปี 2563 นอกจากนี้นโยบายใหม่ยังส่งผลให้ Inventory Turnover เฉลี่ยสูงขึ้น รวมถึงระดับการให้บริการที่เพิ่มสูงขึ้นอีกด้วย