Abstract:
งานวิจัยฉบับนี้มีวัตถุประสงค์ที่จะศึกษาผลกระทบที่เกิดจากปัญหาสินค้าขาดแคลน โดยศึกษาถึงปฏิกิริยาของ Gen Y และ Gen Z รวมไปถึงศึกษาถึงผลกระทบและความสูญเสียที่เกิดกับผู้ผลิตหรือผู้แทนจำหน่ายและผู้ค้าปลีก โดยใช้กรณีศึกษาแชมพูสระผมและครีมบำรุงผิวกายในช่องทางค้าปลีกทันสมัยในกรุงเทพมหานคร งานวิจัยได้ทำการเก็บข้อมูลผ่านการทำแบบสอบถามออนไลน์จากผู้ตอบแบบสอบถามจำนวน 400 คนในกรุงเทพมหานคร โดยการนำ T-test, F-test และ Chi Square มาวิเคราะห์ ซึ่งกลุ่มผู้ตอบแบบสอบถามแบ่งออกเป็น Gen Y 60% Gen Z 40.% และปฏิกิริยาเมื่อสินค้าขาดแคลนแบ่งออกเป็น 4 ทางเลือกคือเปลี่ยนตราสินค้า เปลี่ยนขนาด เปลี่ยนร้าน กลับมาซื้อวันหลัง และไม่ซื้อสินค้า เมื่อแชมพูขาดแคลน Gen Y และ Gen Z เลือกที่จะเปลี่ยนไปซื้อตราสินค้าอื่นคิดเป็นร้อยละ 29 และร้อยละ 37 ตามลำดับ เมื่อครีมบำรุงผิวกายเมื่อขาดแคลน Gen Y และ Gen Z เลือกที่จะเปลี่ยนไปซื้อร้านอื่นคิดเป็นร้อยละ 30 และร้อยละ 30 ตามลำดับ ปัจจัยที่ส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อสินค้าแชมพูมากที่สุดคือปัจจัยทางด้านผลิตภัณฑ์ และปัจจัยที่ส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อสินค้าครีมบำรุงผิวกายมากที่สุดคือปัจจัยทางด้านราคา ทั้งนี้หากสินค้าขาดแคลน ผู้ผลิตจะสูญเสียยอดขาย 1.07 บาทต่อครั้งในครีมบำรุงผิวกายและ 1.00 บาทต่อครั้งในแชมพูสระผม และผู้ค้าปลีกจะเกิดการสูญเสียยอดขาย 1.22 บาทต่อครั้งในครีมบำรุงผิวกายและ 0.96 บาทต่อครั้งในแชมพูสระผม