Abstract:
โรคเท้าช้าง (Lymphatic filariasis) เกิดจากหนุนพยาธิ 2 ชนิดหลักคือ Wuchereria bancrofti และ Brugia malayi ทางองค์การอนามัยโลกได้กำหนดให้โรคเท้าช้างเป็นโรคทางปรสิตที่ควรกำจัดให้หมดไปภายในปี พ.ศ. 2563 โดยมีแนวทางหลักในการควบคุมและป้องกันโรคเท้าช้างคือการจัดให้มีโปรแกรมการรักษาแบบหมู่แก่ประชากรในพื้นที่ที่มีความชุกของโรคสูง และการควบคุมพยาธิภาวะ ทั้งนี้โครงการกำจัดโรคเท้าช้างขององค์การอนามัยโลกได้กำหนดเป้าหมายในการควบคุมโรคให้มีอัตราความชุกของการติดเชื้อเหลืออยู่ร้อยละ 1 จากการตรวจแอนติเจนที่จำเพาะ หรือร้อยละ 0.2 เมื่อตรวจหาไมโครฟิลาเรียในกระแสเลือด อย่างไรก็ตาม ปัญหาที่สำคัญของการประเมินผลการสำเร็จของโครงการจำเป็นต้องมีวิธีการวินิจฉัยที่มีความไวสูง เพื่อสามารถประเมินสถานการณ์ที่แท้จริงของโรคได้ ชุดตรวจวินิจฉัยโรคเท้าช้างที่มีขายในปัจจุบัน สามารถวินิจฉัยได้เฉพาะโรคเท้าช้างที่เกิดจาก W. bancrofti ยังไม่มีชุดตรวจที่มีความไวสูงสำหรับการตรวจวินิจฉัยโรคที่เกิดจาก B. malayi การศึกษานี้จึงได้พัฒนาชุดตรวจวินิจฉัยโรคเท้าช้าง โดยตรวจหาแอนติเจน และ/หรือแอนติบอดีต่อแบคทีเรีย Wolbachia ซึ่งเป็นแบคทีเรียที่ตรวจพบได้ในพยาธิฟิลาเรียเท่านั้นและตรวจพบทั้งในพยาธิ W. bancrofti และ B. malayi และไม่พบปฏิกิริยาข้ามกับปรสิตชนิดอื่น ๆ ทั้งนี้จากการทบทวนวรรณกรรม ผู้วิจัยได้คัดเลือกแอนติเจน 2 ชนิด ซึ่งเป็นแอนติเจนที่มีปริมาณมากที่สุดของแบคทีเรีย และมีความเป็นแอนติเจนสูง ได้แก่ Wolbachia Surface Protein (WSP) และ peptidoglycan-associated lipoprotein (PAL) โดยจากผลการศึกษาในปีแรกได้ทำการสกัดโปรตีน จากแบคทีเรียโวลบาเชียที่แยกจากหนอนพยาธิหัวใจสุนัข และผลิต recombinant antigen ทั้งสองชนิดตลอดจนผลิต polyclonal anti-Wolbachia antibodies, polyclonal anti-rWSP antibodies และ polyclonal anti-rPAL antibodies พร้อมทั้งทำการแยกแอนติบอดีบริสุทธิ์ เพื่อทำการสังเคราะห์อนุภาคทองคำระดับนาโน (AuNPs) และนำมาติดกับแอนติบอดีเพื่อพัฒนาชุดตรวจวินิจฉัยโรคเท้าช้าง ชนิด lateral flow strip ในปีที่สองนี้ผู้วิจัยได้พัฒนาชุด lateral flow ที่ใช้ตรวจหาแอนติบอดีที่โปรตีน WSP ในตัวอย่างซีรัมคนไข้พยาธิโรคเท้าช้างสามารถตรวจวินิจฉัยการติดเชื้อพยาธิฟิลาเรียได้ทั้ง 2 ชนิด โดยใช้เวลาเพียง 20 นาทีในการตรวจ ทั้งนี้ยังได้ทดสอบความไวและความจำเพาะของชุดตรวจ โดยมีความไวอยู่ที่ 65.70% และมีความจำเพาะถึง 84.72% ผู้วิจัยคาดว่าชุดตรวจพยาธิฟิลาเรีย lateral flow strip นี้จะมีความเหมาะสมต่อการตรวจผู้ป่วยทั้งในสถานรักษาพยาบาลและภาคสนามได้เป็นอย่างดี