Abstract:
ฟลาโวนอยด์ 10 ชนิด ที่แยกได้จากเหง้ากระชายดำ (KD) เมื่อทำการทดสอบฤทธิ์ยับยั้งเอนไซม์บิวทิริลโคลีนเอสเตอเรส ด้วยวิธี ทicroplate assay พบว่า สาร7 (5,7-dimethoxy-flavone) มีฤทธิ์ยับยั้งเอนไซม์บิวทิริลโคลีนเอสเตอเรสค่อนข้างสูง เท่ากับ 84.6% ส่วนสาร 6 (5,7,4’-trimethoxy-flavone) มีฤทธิ์ยับยั้งเพียง 46.2% นอกจากนี้ยังได้สังเคราะห์สารอนุพันธุ์ของฟลาโวน 6 ชนิด (1-6s) คือ 3’-nitroflavone (1s), 4’-nitroflavone (2s), 3’-aminoflavone (3s), 4’-aminoflavone (4s), 3’-acetamidoflavone (5s) และ 4’-acetamidoflavone (6s) สำหรับการทดสอบฤทธิ์ในการยับยั้งเอนไซม์อะเซทิลโคลีนเอสเตอเรสของสารสังเคราะห์เหล่านี้พบว่า ปริมาณการยับยั้งเอนไซม์อะเซทิลโคลีนเอสเตอเรส ที่ความเข้มข้น 0.1 mg/ml ของสาร 1s จะให้เปอร์เซ็นต์การยับยั้งเอนไซม์อะเซทิลโคลีนเอสเตอเรสสูงสุด เท่ากับ 72.58% ส่วนฤทธิ์ยับยั้งเอนไซม์บิวทิริลโคลีนเอสเตอเรส พบว่าสาร 5s จะให้เปอร์เซ็นต์การยับยั้งเอนไซม์บิวทิริลโคลีนเอสเตอเรสสูงสุด เท่ากับ 69.45% ในการแปรรูปกระชายดำผง นำกระชายดำแห้งมาบดให้เป็นผงแล้วสกัดด้วยสารละลายเมทานอลในน้ำ 0% 1% 5% และ 50% จากนั้นระเหยเอาเมทานอลออกภายใต้สุญญากาศ ทำให้เป็นผงโดยวิธีการทำแห้งแบบแช่แข็ง (freeze-dry) แล้ววิเคราะห์ด้วยวิธีแก๊สโครมาโทกราฟี พบว่าในสิ่งสกัดที่ได้พบเฉพาะสาร 7 เท่านั้นโดยได้ปริมาณเท่ากับ 0 69.3 98.4 และ 245.3 มิลลิกรัมต่อกรัมตัวอย่างตามลำดับ อย่างไรก็ตามแม้ว่าการสกัดด้วยเมทานอลในน้ำ 50% จะให้ประมาณสาร 7 มากกว่าแต่จะดูดความชื้นเมื่อวางทิ้งไว้
