Abstract:
การวิจัยครั้งนี้เป็นการศึกษาความสัมพันธ์เชิงทำนายเพื่อศึกษาปัจจัยทำนายความรู้สึกกลัวความก้าวหน้าของความเจ็บป่วยในบุคคลภายหลังเกิดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน กลุ่มตัวอย่าง คือ บุคคลที่ได้รับการวินิจฉัยจากแพทย์ว่ามีภาวะกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน จำนวน 214 คน ที่มารับบริการที่แผนกผู้ป่วยนอกอายุรกรรมโรคหัวใจและหลอดเลือด โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้าและโรงพยาบาลนพรัตนราชธานี คัดเลือกกลุ่มตัวอย่างด้วยวิธีการสุ่มแบบเจาะจง เก็บข้อมูลโดยใช้แบบสอบถามทั้งหมด 9 ส่วน คือ 1) แบบสอบถามข้อมูลส่วนบุคคล 2) แบบสอบถามความรู้เกี่ยวกับโรคหลอดเลือดหัวใจ 3) แบบสอบถามการรับรู้อาการเจ็บหน้าอก 4) แบบสอบถามการรับรู้ความเจ็บป่วยฉบับย่อ 5) แบบสอบถามความรู้สึกกลัวความก้าวหน้าของโรคฉบับย่อ 6) แบบสอบถามความวิตกกังวลในผู้ป่วยโรคหัวใจ 7) แบบประเมินความรู้สึกไม่แน่นอนในความเจ็บป่วย 8) แบบสอบถามการรับรู้สมรรถนะแห่งตน และ 9) แบบสอบถามการสนับสนุนทางสังคม ผ่านการตรวจสอบความตรงตามเนื้อหาจากผู้ทรงคุณวุฒิ 5 ท่าน ได้ค่าดัชนีความตรงตามเนื้อหาเท่ากับ .70, 1, .77, .83, .94, .91, .92 และ 1 ตามลำดับ และผ่านการตรวจสอบความเที่ยงของเครื่องมือเท่ากับ .70, .71, .84, .80, .81, .84 และ .89 ตามลำดับ วิเคราะห์ข้อมูลโดยคำนวณสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์พหุคูณ
ผลการศึกษาพบว่า
1. บุคคลภายหลังเกิดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลันมีความรู้สึกกลัวความก้าวหน้าของความเจ็บป่วยในระดับน้อยคิดเป็นร้อยละ 23.8 มีความรู้สึกกลัวความก้าวหน้าของความเจ็บป่วยในระดับปานกลางคิดเป็นร้อยละ 57.9 มีความรู้สึกกลัวความก้าวหน้าของความเจ็บป่วยในระดับมากคิดเป็นร้อยละ 18.2 และบุคคลภายหลังเกิดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลันมีความรู้สึกกลัวความก้าวหน้าของความเจ็บป่วยโดยรวมอยู่ในระดับปานกลาง (Mean = 36.92, SD = 9.89)
2. ปัจจัยทำนายความรู้สึกกลัวความก้าวหน้าของความเจ็บป่วยในบุคคลภายหลังเกิดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน ประกอบด้วย 4 ตัวแปร ได้แก่ ความวิตกกังวล (Beta = .369) ความรู้สึกไม่แน่นอนในความเจ็บป่วย (Beta = .281) การรับรู้ความเจ็บป่วย (Beta = .119) และการรับรู้สมรรถนะแห่งตน (Beta = - .309) สามารถทำนายความรู้สึกกลัวความก้าวหน้าของความเจ็บป่วยในบุคคลภายหลังเกิดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลันคิดเป็นร้อยละ 69.6 (Adjusted R2 = 69.6, p < .05) ในขณะที่ความรู้เกี่ยวกับโรคหลอดเลือดหัวใจ ความรุนแรงของโรค และการสนับสนุนทางสังคม ไม่สามารถทำนายความรู้สึกกลัวความก้าวหน้าของความเจ็บป่วยในบุคคลภายหลังเกิดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลันได้