Abstract:
ศึกษาที่มาและความสำคัญของคำประกาศสิทธิมนุษยชนและพลเมือง ค.ศ. 1789 ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการรับรองสิทธิมนุษยชนและสิทธิพลเมือง โดยการศึกษาในเรื่องดังกล่าวได้ศึกษาในลักษณะวิเคราะห์เปรียบเทียบกับ บทบัญญัติเกี่ยวกับสิทธิและเสรีภาพของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยฉบับต่างๆ โดยเฉพาะรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540 โดยอาศัยกรอบแนวคิดและหลักการที่สำคัญของคำประกาศสิทธิมนุษยชนและพลเมือง ค.ศ. 1789 เป็นแกนหลักในการวิเคราะห์เพราะต่างก็ล้วนมีจุดมุ่งหมายเดียวกันคือ เพื่อคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของประชาชน จำกัดการใช้อำนาจที่มิชอบของผู้ปกครอง ทั้งนี้เพื่อแสวงหาแนวคิดและมาตรฐานของหลักการ และทางปฏิบัติของการรับรองสิทธิและเสรีภาพขั้นพื้นฐานของประชาชน ที่สามารถเชื่อมโยงกันได้ในบริบทของสังคมที่ต่างภูมิภาคกัน จากการศึกษาพบว่า ความสำคัญของคำประกาศสิทธิมนุษยชนและพลเมือง ค.ศ. 1789 ที่มีต่อบทบัญญัติเกี่ยวกับสิทธิและเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ได้ปรากฏในรูปของแนวความคิดเกี่ยวกับสิทธิปัจเจกชนนิยม (Individualism) ลัทธิเสรีนิยม (Liberalism) สัญญาประชาคม (Social Contract) และความคิดเรื่องสิทธิทางการเมือง (Political Rights) บางประการ ที่สะท้อนให้เห็นในรูปของบทบัญญัติที่รับรองสิทธิเสรีภาพของบุคคลแต่ละคน และได้กลายมาเป็นส่วนหนึ่งของแนวคิดที่ฝังรากลึกในระบอบรัฐธรรมนูญไทย มาตั้งแต่สมัยแรกเริ่ม อีกทั้งหลักการดังกล่าวยังได้รับการพัฒนาให้สอดคล้องกับสภาพการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม ในปัจจุบันที่เปลี่ยนแปลงไป อย่างไรก็ตาม ในส่วนของการปฏิบัติตาม บทบัญญัติเกี่ยวกับสิทธิและเสรีภาพของรัฐธรรมนูญ จะเห็นได้ว่า ปัจจัยสำคัญประการหนึ่งคือ สัมพันธภาพทางอำนาจการเมืองการปกครอง อันเป็นต้นกำเนิดของรัฐธรรมนูญ ล้วนส่งผลทำให้ลักษณะของการรับรองสิทธิและเสรีภาพมีระดับที่แตกต่างกัน หรือในบางครั้งก็ไม่ปรากฏบทบัญญัติเกี่ยวกับสิทธิและเสรีภาพอยู่เลย ดังนั้นประชาชนจะได้รับการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพมากน้อยเพียงใด จำเป็นอย่างยิ่งที่กกระบวนการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องในสังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่งทัศนคติของผู้ใช้อำนาจปกครอง จะต้องตระหนักถึงความสำคัญดังกล่าว และในส่วนของประชาชนเองจะต้องพยายามศึกษาและทำความเข้าใจ ในหลักสิทธิและเสรีภาพขั้นพื้นฐานของรัฐธรรมนูญ เพื่อให้สามารถปกป้องสิทธิและเสรีภาพของตนได้อย่างมีประสิทธิภาพ