dc.contributor.advisor |
นิเทศ ตินณะกุล |
|
dc.contributor.author |
อาภาพรรณ ถาวโรฤทธิ์ |
|
dc.contributor.other |
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. คณะรัฐศาสตร์ |
|
dc.date.accessioned |
2009-06-13T07:34:51Z |
|
dc.date.available |
2009-06-13T07:34:51Z |
|
dc.date.issued |
2542 |
|
dc.identifier.isbn |
9743342796 |
|
dc.identifier.uri |
http://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/9069 |
|
dc.description |
วิทยานิพนธ์ (สค.ม.)--จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2542 |
en |
dc.description.abstract |
ศึกษาทัศนคติของประชาชนต่อปัญหาการทารุณกรรมเด็กในครอบครัว เพื่อศึกษาถึงความคิดเห็นของประชาชน ต่อการให้ความช่วยเหลือเด็กที่ถูกทารุณกรรม เพื่อศึกษาถึงแนวความคิดในการกระทำทารุณกรรมเด็ก และเพื่อศึกษาถึงอุปสรรคต่างๆ ในการให้ความช่วยเหลือเด็กที่ถูกทารุณกรรม การเก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบสอบถาม กลุ่มตัวอย่างในเขตปทุมวัน จำนวน 200 ราย และการสัมภาษณ์ผู้ให้ข่าวสำคัญ (Key Informant Interview) จำนวน 5 ราย เพื่อรวบรวมข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ ค่าสถิติที่ใช้วิเคราะห์ข้อมูลคือ ค่าความถี่ (frequency) ค่าร้อยละ (percentage) ค่าเฉลี่ย (mean) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (standard deviation) และค่าสถิติที่ใช้ทดสอบค่าความสัมพันธ์คือ ค่า t-test โดยมีระดับนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 ผลการวิจัยพบว่า อายุ สถานภาพการสมรส จำนวนบุตร อาชีพ และรายได้ต่อเดือน มีความสัมพันธ์กับทัศนคติต่อปัญหาการทารุณกรรมเด็กในครอบครัว ส่วนเพศและระดับการศึกษาไม่มีความสัมพันธ์กับทัศนคติ ต่อปัญหาการทารุณกรรมเด็กในครอบครัว |
en |
dc.description.abstractalternative |
To study the public's attitude toward the problem of child abuse in family and the public's opinion on helping the abused children. Finally the purpose of this thesis was to learn about obstracles in getting help to those children who were abused. The data was collected randomly by asking 200 people in Patumwan district to fill out a questionnaire and by interviewing 5 key informants in order to get the most conclusive data for the analysis. For the hypothesis testing, the t-test with the level of significance at 0.05 was employed. The statistical models that had been used in this test were frequency, percentage, mean and standard deviation. The result of research were age, marital status, number of children, occupation and monthly income had relationship with attitude toward the problem of child abuse in family. However, gender and educational level did not have relationship with attitude toward the problem of child abuse in family. |
en |
dc.format.extent |
804414 bytes |
|
dc.format.extent |
779378 bytes |
|
dc.format.extent |
1713155 bytes |
|
dc.format.extent |
755294 bytes |
|
dc.format.extent |
1255407 bytes |
|
dc.format.extent |
740025 bytes |
|
dc.format.extent |
1075604 bytes |
|
dc.format.mimetype |
application/pdf |
|
dc.format.mimetype |
application/pdf |
|
dc.format.mimetype |
application/pdf |
|
dc.format.mimetype |
application/pdf |
|
dc.format.mimetype |
application/pdf |
|
dc.format.mimetype |
application/pdf |
|
dc.format.mimetype |
application/pdf |
|
dc.language.iso |
th |
es |
dc.publisher |
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย |
en |
dc.rights |
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย |
en |
dc.subject |
ครอบครัว |
en |
dc.subject |
การทารุณเด็ก |
en |
dc.subject |
เด็ก -- การสงเคราะห์ |
en |
dc.title |
ทัศนคติต่อปัญหาการทารุณกรรมเด็กในครอบครัว |
en |
dc.title.alternative |
Attitudes toward the problem of child abuse in family |
en |
dc.type |
Thesis |
es |
dc.degree.name |
สังคมวิทยามหาบัณฑิต |
es |
dc.degree.level |
ปริญญาโท |
es |
dc.degree.discipline |
สังคมวิทยา |
es |
dc.degree.grantor |
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย |
en |
dc.email.advisor |
Nithet.T@Chula.ac.th |
|