Please use this identifier to cite or link to this item: https://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/12851
Full metadata record
DC FieldValueLanguage
dc.contributor.advisorสุภาพรรณ โคตรจรัส-
dc.contributor.authorทัศไนย วงศ์สุวรรณ-
dc.contributor.otherจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. คณะจิตวิทยา-
dc.date.accessioned2010-06-11T11:24:38Z-
dc.date.available2010-06-11T11:24:38Z-
dc.date.issued2542-
dc.identifier.isbn9743342451-
dc.identifier.urihttp://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/12851-
dc.descriptionวิทยานิพนธ์ (ศศ.ม.)--จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2542en
dc.description.abstractศึกษาผลของการปรึกษาเชิงจิตวิทยาแบบกลุ่มตามแนวพิจารณาเหตุผล อารมณ์และพฤติกรรมต่อความโกรธของนักเรียนวัยรุ่น โดยมีสมมุติฐานการวิจัยคือ (1) ระดับความโกรธโดยทั่วไปของนักเรียน ที่ได้เข้าร่วมการปรึกษาเชิงจิตวิทยาแบบกลุ่ม จะต่ำกว่าระดับความโกรธโดยทั่วไปของนักเรียนกลุ่มควบคุม ในระยะหลังการทดลองและในระยะติดตามผล (2) ระดับความโกรธโดยทั่วไป ของนักเรียนที่ได้เข้าร่วมปรึกษาเชิงจิตวิทยาแบบกลุ่ม ในระยะหลังการทดลองและในระยะติดตามผลจะต่ำกว่าในระยะก่อนการทดลอง (3)ระดับการแสดงความโกรธออกภายนอกของนักเรียนที่ได้เข้าร่วม การปรึกษาเชิงจิตวิทยาแบบกลุ่ม จะต่ำกว่าระดับการแสดงความโกรธออกภายนอกของนักเรียนกลุ่มควบคุม ในระยะหลังการทดลองและในระยะติดตามผล (4) ระดับการแสดงความโกรธออกภายนอก ของนักเรียนที่ได้เข้าร่วมการปรึกษาเชิงจิตวิทยาแบบกลุ่ม ในระยะหลังการทดลองและในระยะติดตามผลจะต่ำกว่าในระยะก่อนการทดลอง (5)ระดับการควบคุมความโกรธของนักเรียน ที่ได้เข้าร่วมการปรึกษาเชิงจิตวิทยาแบบกลุ่ม จะสูงกว่าระดับการควบคุมความโกรธของนักเรียนกลุ่มควบคุม ในระยะหลังการทดลองและในระยะติดตามผล (6) ระดับการควบคุมความโกรธ ของนักเรียนที่ได้เข้าร่วมการปรึกษาเชิงจิตวิทยาแบบกลุ่ม ในระยะหลังการทดลองและในระยะติดตามผลจะสูงกว่าในระยะก่อนการทดลอง การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงทดลองแบบมีกลุ่มควบคุม ทดสอบก่อนและหลังการทดลอง (Pretest-Posttest Control Group Design) กลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนที่มีประวัติจากฝ่ายปกครอง ว่ามีปัญหาทางพฤติกรรมจำนวน 16 คน ซึ่งสุ่มจากนักเรียนที่มีประวัติจากฝ่ายปกครองว่า มีปัญหาทางพฤติกรรมที่ได้คะแนนจากแบบวัดความโกรธ และการแสดงความโกรธในมาตรความโกรธแบบลักษณะ และมาตรการแสดงความโกรธออกภายนอกสูงกว่าเปอร์เซนไทล์ที่ 75 และมีคะแนนในมาตรการควบคุมความโกรธต่ำกว่าเปอร์เซนไทล์ที่ 25 สุ่มเป็นกลุ่มทดลอง 8 คน และกลุ่มควบคุม 8 คน กลุ่มทดลองได้เข้าร่วมการปรึกษาเชิงจิตวิทยาแบบกลุ่ม ตามแนวพิจารณาเหตุผล อารมณ์และพฤติกรรมเป็นเวลา 7 สัปดาห์ต่อเนื่องกัน สัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง ครั้งละ 1 1/2-2 ชั่วโมง รวม 20 ชั่วโมง โดยผู้วิจัยเป็นผู้นำกลุ่ม เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยคือ แบบวัดประสบการณ์ความโกรธและการแสดงความโกรธ ซึ่งพัฒนามาจากแบบสำรวจความโกรธแบบสภาวะ-ลักษณะและการแสดงความโกรธของ Spielberger วิเคราะห์ข้อมูลด้วยการทดสอบความแตกต่าง ของค่าเฉลี่ยคะแนนความโกรธแบบลักษณะ การแสดงความโกรธออกภายนอกและคะแนนการควบคุมความโกรธด้วยการทดสอบค่าที (t-test) ผลการวิจัยพบว่า (1) หลังการทดลองและในระยะติดตามผล นักเรียนที่เข้าร่วมการปรึกษาเชิงจิตวิทยาแบบกลุ่มมีคะแนนความโกรธโดยทั่วไปต่ำกว่านักเรียนที่ไม่ได้เข้าร่วมการปรึกษาเชิงจิตวิทยาแบบกลุ่มมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 (2) หลังการทดลองและในระยะติดตามผล นักเรียนที่เข้าร่วมการปรึกษาเชิงจิตวิทยาแบบกลุ่มมีคะแนนความโกรธโดยทั้วไปต่ำกว่าก่อนการทดลองอย่างมีนัยสำคัฐทางสถิติที่ระดับ .05 (3) หลังการทดลองและในระยะติดตามผล นักเรียนที่เข้าร่วมการปรึกษาเชิงจิตวิทยาแบบกลุ่มมีคะแนนการแสดงความโกรธออกภายนอกต่ำกว่านักเรียนที่ไม่ได้เข้าร่วมการปรึกษาเชิงจิตวิทยาแบบกลุ่มอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 (4) หลังการทดลองและในระยะติดตามผล นักเรียนที่เข้าร่วมการปรึกษาเชิงจิตวิทยาแบบกลุ่มมีคะแนนการแสดงความโกรธออกภายนอกต่ำกว่าก่อนการทดลองอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 (5) หลังการทดลองและในระยะติดตามผล นักเรียนที่เข้าร่วมการปรึกษาเชิงจิตวิทยาแบบกลุ่มมีคะแนนการควบคุมความโกรธสูงกว่านักเรียนที่ไม่ได้เข้าร่วมการปรึกษาเชิงจิตวิทยาแบบกลุ่มอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 (6) หลังการทดลองและในระยะติดตามผล นักเรียนที่เข้าร่วมการปรึกษาเชิงจิตวิทยาแบบกลุ่มมีคะแนนการควบคุมความโกรธสูงกว่าก่อนการทดลองอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05en
dc.description.abstractalternativeTo study the effect of group rational emotive behavior therapy on anger of adolescent students. The hypotheses were that (1) the posttest and follow-up test scores on Trait-Anger scale of the experimental group would be lower than the posttest and follow-up test scores of the control group (2) the posttest and follow-up test scores on Trait-Anger scale of the experimental group would be lower than its pretest scores (3) the posttest and follow-up test scores on Anger-Out scale of the experimental group would be lower than the posttest and follow-up test scores of the control group (4) the posttest and follow-up test scores on Anger-Out scale of the experimental group would be lower than its pretest scores (5) the posttest and follow-up test scores on Anger-Control scale of the experimental group would be higher than the posttest and follow-up test scores of the control group (6) the posttest and follow-up test scores on Anger-Control scale of the experimental group would be higher than its pretest scores. The research design was the pretest-posttest control group design. The sample was 16 students selected from the students who had reported behavior problem on the school records and scored higher than 75 percentile on Trait-Anger and Anger-Out scales and scored lower than 25 percentile on Anger-Control scale. They were randomly assigned to an experimental group and a control group, each group comprising 8 student. The experimental group participated in a group rational emotive behavior therapy program conducted by the researcher, for one and a half to two hours, once or twice a week, over a period of 7 consecutive weeks altogether for approximately 20 hours. The instrument used in this study was the experience and expression of Anger Scales developed from the spielberger's State-Trait Anger Expression Inventory. The t-test was utilized for data analysis. The results indicated that: (1) The postest and follow-up test scores on the Trait-Anger scale of the experimental group were lower the postest and follow-up test scores of the control group at .05 level of significance. (2) The postest and follow-up test scores on the Trait-Anger scale of the experimental group were lower than its pretest scores at .05 level of significance. (3) The postest and follow-up test scores on the Anger-Out scale of the experimental group were lower than the postest and follow-up test scores of the cotrol group at .05 level of significance. (4) The postest and follow-up test scores on the Anger-Out scale of the experimental group were lower than its pretest scores at .05 level of significance. (5) The postest and follow-up test scores on the Anger-Control scale of the experimental group were higher than the postest and follow-up test scores of the control group at .05 level of significance. (6) The postest and follow-up test scores on the Anger-Control scale of the experimental group were higher than its pretest scores at .05 level of significance.en
dc.format.extent657999 bytes-
dc.format.extent459205 bytes-
dc.format.extent1036866 bytes-
dc.format.extent1061654 bytes-
dc.format.extent2209745 bytes-
dc.format.extent736050 bytes-
dc.format.extent219929 bytes-
dc.format.extent2667952 bytes-
dc.format.mimetypeapplication/pdf-
dc.format.mimetypeapplication/pdf-
dc.format.mimetypeapplication/pdf-
dc.format.mimetypeapplication/pdf-
dc.format.mimetypeapplication/pdf-
dc.format.mimetypeapplication/pdf-
dc.format.mimetypeapplication/pdf-
dc.format.mimetypeapplication/pdf-
dc.language.isothes
dc.publisherจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยen
dc.rightsจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยen
dc.subjectความโกรธen
dc.subjectการปรึกษาเชิงจิตวิทยาen
dc.subjectจิตวิทยาวัยรุ่นen
dc.titleผลของการปรึกษาเชิงจิตวิทยาแบบกลุ่มตามแนวพิจารณาเหตุผล อารมณ์และพฤติกรรม ต่อความโกรธของนักเรียนวัยรุ่นen
dc.title.alternativeThe effect of group rational emotive behavior therapy on anger of adolescent studentsen
dc.typeThesises
dc.degree.nameศิลปศาสตรมหาบัณฑิตes
dc.degree.levelปริญญาโทes
dc.degree.disciplineจิตวิทยาการปรึกษาes
dc.degree.grantorจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยen
dc.email.advisorSupapan.K@Chula.ac.th-
Appears in Collections:Psy - Theses

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
Tasanai_Wo_front.pdf934.09 kBAdobe PDFView/Open
Tasanai_Wo_ch1.pdf3.22 MBAdobe PDFView/Open
Tasanai_Wo_ch2.pdf1.14 MBAdobe PDFView/Open
Tasanai_Wo_ch3.pdf376.84 kBAdobe PDFView/Open
Tasanai_Wo_ch4.pdf985.12 kBAdobe PDFView/Open
Tasanai_Wo_ch5.pdf413.32 kBAdobe PDFView/Open
Tasanai_Wo_back.pdf6.95 MBAdobe PDFView/Open


Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.