ความคิดเห็นของผู้บริหารโรงเรียนและครู เกี่ยวกับบทบาททางวิชาการของผู้บริหารโรงเรียนศึกษาสงเคราะห์

Abstract

วัตถุประสงค์ของการวิจัย 1. เพื่อศึกษาบทบาททางวิชาการของผู้บริหารโรงเรียนศึกษาสงเคราะห์ตามความคิดเห็นของผู้บริหารโรงเรียนและครู 2. เพื่อศึกษาปัญหาและอุปสรรคที่มีผลกระทบต่อบทบาททางวิชาการของผู้บริหารโรงเรียนศึกษาสงเคราะห์ วิธีดำเนินการวิจัย ประชากรและตัวอย่างประชากรที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วยผู้บริหารโรงเรียนศึกษาสงเคราะห์ที่เปิดสอนเฉพาะระดับประถมศึกษาทั้งหมด จำนวน 21 โรงเรียน ใช้วิธีสุ่มตัวอย่างแบบง่าย (Simple Random Sampling) โดยเลือกสุ่มร้อยละ 50 ของจำนวนครูในแต่ละโรงเรียน ได้ตัวอย่างประชากร 303 คน รวมประชากรและตัวอย่างประชากรทั้งสิ้น 324 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสอบถาม มีลักษณะเป็นแบบสำรวจ (Check list) มาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) และแบบสอบถามปลายเปิด (Open Ended) ส่งแบบสอบถามไปทั้งสิ้น 324 ฉบับ ได้รับคืนเป็นฉบับที่สมบูรณ์ 268 ฉบับ คิดเป็นร้อยละ 82.72 การวิเคราะห์ข้อมูล ใช้ค่าร้อยละ (Percentage) ค่ามัชฌิมเลขคณิต (Arithmetic Mean) และค่าความเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) โดยใช้คอมพิวเตอร์ โปรแกรมสำเร็จรูป SPSS (Statistical Package for the Social Sciences) สรุปผลการวิจัย 1. ผู้บริหารโรงเรียนศึกษาสงเคราะห์และครูมีความคิดเห็นว่า บทบาทของผู้บริหารโรงเรียนศึกษาสงเคราะห์ด้านหลักสูตรและการจัดการเรียนการสอน ด้านบริการห้องสมุด ด้านบริการแนะแนว และด้านการนิเทศการศึกษา อยู่ในระดับปานกลาง 2. ผู้บริหารโรงเรียนศึกษาสงเคราะห์มีความคิดเห็นว่า บทบาทด้านบริการสื่อการเรียนการสอน และด้านการวัดผล-ประเมินผลการศึกษา อยู่ในระดับมาก ส่วนครูมีความคิดเห็นว่าบทบาท 2 ด้านนี้ อยู่ในระดับปานกลาง สรุปได้ว่าบทบาททางวิชาการของผู้บริหารโรงเรียนศึกษาสงเคราะห์ อยู่ในระดับปานกลาง บทบาทที่ผู้บริหารโรงเรียนปฏิบัติจากมากไปหาน้อย คือ บทบาทด้านหลักสูตรและการจัดการเรียนการสอน บทบาทด้านการวัดผล-ประเมินผลการศึกษา บทบาทด้านบริการสื่อการเรียนการสอน บทบาทด้านการนิเทศการศึกษา บทบาทด้านบริการห้องสมุด และบทบาทด้านบริการแนะแนว ตามลำดับ 3. ผู้บริหารโรงเรียนศึกษาสงเคราะห์มีความคิดเห็นว่า ปัญหาและอุปสรรคที่กำหนดไว้ 16 ข้อ เป็นปัญหาและอุปสรรคระดับน้อย ส่วนครูมีความคิดเห็นว่าเป็นปัญหาและอุปสรรคระดับปานกลาง