Please use this identifier to cite or link to this item:
https://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/23590
Full metadata record
DC Field | Value | Language |
---|---|---|
dc.contributor.advisor | ลิ้นจี่ ทะวานนท์ | |
dc.contributor.author | ทวีศักดิ์ บัวพนัส | |
dc.contributor.other | จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. บัณฑิตวิทยาลัย | |
dc.date.accessioned | 2012-11-09T08:37:45Z | |
dc.date.available | 2012-11-09T08:37:45Z | |
dc.date.issued | 2528 | |
dc.identifier.isbn | 9745648965 | |
dc.identifier.uri | http://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/23590 | |
dc.description | วิทยานิพนธ์ (ค.ม.)--จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2528 | en |
dc.description.abstract | วัตถุประสงค์ของการวิจัย 1. เพื่อเปรียบเทียบความคิดเห็นของอาจารย์ผู้สอนวิชาสังคมศึกษาภายในภาควิชาสังคมวิทยา ภาควิชาประวัติศาสตร์ ภาควิชาภูมิศาสตร์ ภาควิชาปรัชญาและศาสนา และภาควิชาเศรษฐศาสตร์และการเมือง ระหว่างวิทยาลัยครูกลุ่มนครหลวงกับกลุ่มภาคเหนือ เกี่ยวกับการใช้ประโยชน์จากแหล่งชุมชนประกอบการสอนวิชาสังคมศึกษาในระดับปริญญาตรี 2. เพื่อเปรียบเทียบความคิดเห็นของอาจารย์ผู้สอนวิชาสังคมศึกษา ระหว่าง 5 ภาควิชา คือภาควิชาสังคมวิทยา ภาควิชาประวัติศาสตร์ ภาควิชาภูมิศาสตร์ ภาควิชาปรัชญาและศาสนาและภาควิชาเศรษฐศาสตร์และการเมือง ทั้งในวิทยาลัยครูกลุ่มนครหลวงและกลุ่มภาคเหนือเกี่ยวกับการใช้ประโยชน์จากแหล่งชุมชนประกอบการสอนวิชาสังคมศึกษา ในระดับปริญญาตรี วิธีดำเนินการวิจัย การวิจัยครั้งนี้มีวิธีดำเนินการเป็น 2 วิธี คือ วิธีที่หนึ่ง เป็นการวิจัยเอกสาร (Documentary Research) เกี่ยวกับแหล่งชุมชนและการใช้ประโยชน์จากแหล่งชุมชนประกอบการสอนวิชาสังคมศึกษา วิธีที่สอง เป็นการวิจัยเชิงสำรวจ (Survey Research) ได้รวบรวมความคิดเห็นของอาจารย์ผู้สอนวิชาสังคมศึกษา เกี่ยวกับการใช้ประโยชน์จากแหล่งชุมชนประกอบการสอนวิชาสังคมศึกษาในระดับปริญญาตรี ประชากรที่ใช้ในการวิจัยเป็นอาจารย์ผู้สอนวิชาสังคมศึกษาที่ปฏิบัติงานอยู่ทั้งหมด ประจำปีการศึกษา 2526 จำนวน 201 คน ประกอบด้วยอาจารย์ผู้สอนวิชาสังคมศึกษาในวิทยาลัยครูกลุ่มนครหลวง 90 คน และอาจารย์ผู้สอนวิชาสังคมศึกษา ในวิวทยาลัยครูกลุ่มภาคเหนือ 111 คน ผู้วิจัยส่งแบบสอบถามไปทั้งสิ้น 204 ฉบับ ได้รับคืนมา 201 ฉบับ คิดเป็นร้อยละ 98.52 แล้วนำข้อมูลที่ได้มาวิเคราะห์ โดยหาค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย( ) ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D) การทดสอบค่าที (t-test) และวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว (One-way Analysis of Variance) แสดงผลการวิจัยในรูปตารางและอธิบายประกอบ สรุปผลการวิจัย การวิเคราะห์ข้อมูลจากเอกสาร พบว่า แหล่งชุมชนสามารถแบ่งออกเป็น 3 ประเภทใหญ่ๆ คือ ประเภทที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ประเภทที่เกิดขึ้นจากความคิดสร้างสรรค์ของมนุษย์ และประเภทที่เป็นมนุษย์ซึ่งไม่จำกัดในด้านความรู้ความสามารถ ทั้งนี้ย่อมขึ้นอยู่กับการรู้จักเลือกแหล่งชุมชนให้เหมาะสมก่อนจะนำมาใช้ให้เป็นประโยชน์ต่อการเรียนการสอนได้ วิธีการใช้ประโยชน์จาแหล่งชุมชนสามารถแบ่งออกเป็น 2 วิธีใหญ่ๆ คือ การนำผู้เรียนไปสู่ชุมชนซึ่งได้แก่ การศึกษานอกสถานที่ การสำรวจ การสัมภาษณ์ การสังเกต และการฝึกงาน วิธีหนึ่ง และอีกวิธีหนึ่งคือ การนำแหล่งความรู้ในชุมชนมาสู่ชั้นเรียน ได้แก่ การขอ ยืม ซื้อ เอกสารและวัสดุที่มีคุณค่าทางการศึกษาเพื่อนำมาใช้สอน หรือจัดกิจกรรมการเรียนการสอน สำหรับเวลาที่ใช้ประโยชน์จากแหล่งชุมชนนั้นไม่อาจกำหนดไว้ชัดเจนในส่วนกิจกรรมที่ให้นักศึกษาปฏิบัติก่อนและหลังการใช้ประโยชน์จากแหล่งชุมชนที่ปฏิบัติกันมากได้แก่ การจัดอภิปราย การจดบันทึก การเขียนรายงาน การศึกษานอกสถานที่ และการค้นคว้าเพิ่มเติม การวิเคราะห์ข้อมูลแบบสอบถามความคิดเห็นของอาจารย์ผู้สอนวิชาสังคมศึกษาเกี่ยวกับการใช้ประโยชน์จากแหล่งชุมชนประกอบการสอนวิชาสังคมศึกษาในระดับปริญญาตรีพบว่า 1. ความคิดเห็นของอาจารย์ผู้สอนวิชาวังคมศึกษาภายในภาควิชาเดียวกัน ระหว่างวิทยาลัยครูกลุ่มนครหลวงกับกลุ่มภาคเหนือ เกี่ยวกับการใช้ประโยชน์จากแหล่งชุนชนประกอบการสอนวิชาสังคมศึกษาในระดับปริญญาตรี พบว่ามีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 2. ความคิดเห็นของอาจารย์ผู้สอนวิชาสังคมศึกษาระหว่าง 5 ภาควิชา ในวิทยาลัยครูกลุ่มนครหลวงเกี่ยวการใช้ประโยชน์จากแหล่งชุมชนประกอบการสอนวิชาสังคมศึกษาในระดับปริญญาตรี พบว่ามีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 เมื่อเปรียบเทียบความคิดเห็นที่แตกต่างกันเป็นรายคู่ตามวิธีการของ เชฟเฟ่ (Scheffe’) พบว่าความคิดเห็นระหว่างอาจารย์ภาควิชาสังคมวิทยากับอาจารย์ภาควิชาประวัติศาสตร์ อาจารย์ภาวิชาภูมิศาสตร์ อาจารย์ภาวิชาปรัชญาและศาสนา อาจารย์ภาควิชาเศรษฐศาสตร์ และการเมือง มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ความคิดเห็นระหว่างอาจารย์ภาควิชาประวัติศาสตร์กับอาจารย์ภาควิชาภูมิศาสตร์ อาจารย์ภาควิชาปรัชญาและศาสนา อาจารย์ภาควิชาเศรษฐศาสตร์และการเมือง มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ความคิดเห็นระหว่างอาจารย์ภาควิชาภูมิศาสตร์กับอาจารย์ภาควิชาเศรษฐศาสตร์และการเมือง และความคิดเห็นระหว่างอาจารย์ภาควิชาปรัชญาและศาสนากับอาจารย์ภาควิชาเศรษฐศาสตร์แลการเมือง มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ส่วนความคิดเห็นระหว่างอาจารย์ภาควิชาภูมศาสตร์กับอาจารย์ภาควิชาปรัชญาและศาสนาไม่พบความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญ 3. ความคิดเห็นของอาจารย์ผู้สอนวิชาสังคมศึกษาระหว่าง 5 ภาควิชาในวิทยาลัยครูกลุ่มภาคเหนือ เกี่ยวกบการใช้ประโยชน์จากแหล่งชุมชนประกอบการสอนวิชาสังคมศึกษาในระดับปริญญาตรี พบว่า มีความแตกต่างกันอย่างมนัยสำคัญทางสถิติที่รับได้ .05 เมื่อเปรียบเทียบความคิดเห็นที่แตกต่างกันเป็นรายคู่ ตามวิธีการของเชฟเฟ่ (Scheffe’) พบว่า ความคิดเห็นระหว่างอาจารย์ภาควิชาสังคมวิทยากับอาจารย์ภาควิชาประวัติศาสตร์ อาจารย์ภาควิชาภูมิศาสตร์ อาจารย์ภาควิชาปรัชญาและศาสนา อาจารย์ภาควิชาเศรษฐศาสตร์และการเมืองมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ความคิดเห็นระหว่างอาจารย์ภาควิชาประวัติศาสตร์กับอาจารย์ภาควิชาภูมิศาสตร์ อาจารย์ภาควิชาปรัชญาและศาสนา อาจารย์ภาควิชา เศรษฐศาสตร์และการเมืองมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ความคิดเห็นระหว่างอาจารย์ภาควิชาภูมิศาสตร์กับอาจารย์ภาควิชาเศรษฐศาสตร์และการเมือง และความคิดเห็นระหว่างอาจารย์ภาควิชาปรัชญาแลศาสนากับอาจารย์ภาควิชาเศรษฐศาสตร์และการเมืองมีความแตกต่างกนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ส่วนความคิดเห็นระหว่างอาจารย์ภาควิชาภูมิศาสตร์กับอาจารย์ภาควิชาปรัชญาและศาสนา ไม่พบความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญ | |
dc.format.extent | 775085 bytes | |
dc.format.extent | 551502 bytes | |
dc.format.extent | 1739659 bytes | |
dc.format.extent | 552517 bytes | |
dc.format.extent | 3741085 bytes | |
dc.format.extent | 1322138 bytes | |
dc.format.extent | 887710 bytes | |
dc.format.mimetype | application/pdf | |
dc.format.mimetype | application/pdf | |
dc.format.mimetype | application/pdf | |
dc.format.mimetype | application/pdf | |
dc.format.mimetype | application/pdf | |
dc.format.mimetype | application/pdf | |
dc.format.mimetype | application/pdf | |
dc.language.iso | th | es |
dc.publisher | จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย | en |
dc.rights | จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย | en |
dc.title | การเปรียบเทียบความคิดเห็นของอาจารย์ในวิทยาลัยครูกลุ่มนครหลวง และกลุ่มภาคเหนือเกี่ยวกับการใช้ประโยชน์จากแหล่งชุมชน ประกอบการสอนวิชาสังคมศึกษาระดับปริญญาตรี | en |
dc.title.alternative | A comparison of Bangkok Metropolitan and Northern Teachers colleges instructors' opinions concerning community resources utilization for teaching social studies at the undergraduate level | en |
dc.type | Thesis | es |
dc.degree.name | ครุศาสตรมหาบัณฑิต | es |
dc.degree.level | ปริญญาโท | es |
dc.degree.grantor | จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย | en |
Appears in Collections: | Grad - Theses |
Files in This Item:
File | Description | Size | Format | |
---|---|---|---|---|
Taweesak_Bu_front.pdf | 756.92 kB | Adobe PDF | View/Open | |
Taweesak_Bu_ch1.pdf | 538.58 kB | Adobe PDF | View/Open | |
Taweesak_Bu_ch2.pdf | 1.7 MB | Adobe PDF | View/Open | |
Taweesak_Bu_ch3.pdf | 539.57 kB | Adobe PDF | View/Open | |
Taweesak_Bu_ch4.pdf | 3.65 MB | Adobe PDF | View/Open | |
Taweesak_Bu_ch5.pdf | 1.29 MB | Adobe PDF | View/Open | |
Taweesak_Bu_back.pdf | 866.9 kB | Adobe PDF | View/Open |
Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.