ทัศนคติของผู้บริโภคในเขตกรุงเทพมหานคร ที่มีต่อเครื่องพิมพ์ดีดแบบกระเป๋าหิ้ว

Abstract

การศึกษาในด้านทัศนคติของผู้บริโภคในเขตกรุงเทพมหานครที่มีต่อเครื่องพิมพ์ดีดแบบกระเป๋าหิ้วนี้ เป็นหัวข้อเรื่องที่น่าสนใจและน่าศึกษาเรื่องหนึ่ง เพราะเครื่องพิมพ์ดีดแบบกระเป๋าหิ้วเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีการจำหน่ายในประเทศไทยมาหลายสิบปีมาแล้ว แต่ก็ยังมิได้มีบุคคลใดทำการศึกษาด้านการตลาดอย่างจริงจัง โดยเฉพาะในด้านของทัศนคติ ซึ่งเป็นสิ่งที่มีผลต่อการกำหนดพฤติกรรมในการตัดสินใจซื้อของแต่ละบุคคลและขณะเดียวกันเครื่องพิมพ์ดีดที่จำหน่ายก็ยังมิได้มีการพัฒนาให้ก้าวหน้าไปเหมือนกับเครื่องพิมพ์ดีดประเภทอื่น ๆ ด้วยเหตุนี้ผู้เขียนจึงสนใจที่จะศึกษาเกี่ยวกับเรื่องของเครื่องพิมพ์ดีดแบบกระเป๋าหิ้ว โดยเน้นหนักไปทางด้านการวิจัยแบบสำรวจ เพื่อต้องการทราบถึงทัศนคติ พฤติกรรมและข้อคิดเห็นของผู้บริโภค ประเภทครัวเรือนหรือบุคคลธรรมดาและประเภทสถาบันหรือหน่วยงานที่มีต่อเครื่องพิมพ์ดีดแบบกระเป๋าหิ้วในด้านต่าง ๆ เพื่อให้ได้ข้อมูลที่จะเป็นประโยชน์ในการใช้เป็นแนวทางปรับปรุงกลยุทธและส่วนผสมทางการตลาดให้มีความเหมาะสมกับความต้องการของผู้บริโภคมากที่สุด และสามารถเป็นแนวทางในการวิจัยด้านอื่น ๆ ได้ตามที่ต้องการต่อไป ผลจากการวิเคราะห์ดังกล่าว ทำให้ทราบตลาดผู้ใช้เครื่องพิมพ์ดีดแบบกระเป๋าหิ้วส่วนใหญ่เป็นนักเรียน นิสิต หรือนักศึกษา ซึ่งผู้ซื้อและผู้ใช้มักจะมิใช่บุคคลคนเดียวกัน สาเหตุสำคัญที่ทำให้ผู้บริโภคตัดสินใจซื้อเครื่องพิมพ์ดีดแบบกระเป๋าหิ้วแทนที่จะเลือกซื้อเครื่องพิมพ์ดีดประเภทอื่น เพราะต้องการความสะดวกในการเคลื่อนย้ายหรือนำติดตัวไปในที่ต่าง ๆ การตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคมีปัจจัยหลายอย่างที่ใช้เป็นเกณฑ์ในการพิจารณา แต่ปัจจัยที่สำคัญได้แก่ น้ำหนักพิมพ์หรือความคมชัดของตัวอักษร ความคงทนถาวร ความคล่องตัวในการพิมพ์ และชื่อเสียงหรือตรายี่ห้อของผลิตภัณฑ์ ในด้านผลิตภัณฑ์ผู้บริโภคมีทัศนคติและความเชื่อว่า คุณภาพของเครื่องพิมพ์ดีดแบบกระเป๋าหิ้วแต่ละตราหรือยี่ห้อมีความแตกต่างกัน ซึ่งคุณภาพดังกล่าวควรมีการปรับปรุงให้ดีขึ้น และมีประสิทธิภาพใช้งานเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของความคงทนถาวร ในด้านราคา ผู้บริโภคมีความเชื่อว่า ราคาของเครื่องพิมพ์ดีดที่จำหน่ายในปัจจุบันมีความเหมาะสม ด้านการจัดจำหน่าย ปรากฏว่า ผู้บริโภคต้องประสบกับปัญหาการขาดแคลนผลิตภัณฑ์ที่ต้องการซื้อในตลาด และในด้านการส่งเสริมการจำหน่าย ส่วนใหญ่มีความเห็นว่า ข่าวสารที่ได้รับเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์มีน้อยเกินไป ไม่เพียงพอต่อการตัดสินใจ ดังนั้นผู้บริโภคจึงมักจะทำการตัดสินใจซื้อโดยอาศัยความเชื่อมั่นของตนเอง หรืออาศัยคำแนะนำจากผู้อื่นเป็นสำคัญ จากการศึกษาในเรื่องนี้ จึงมีข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะว่า บริษัทหรือผู้แทนจำหน่ายเครื่องพิมพ์ดีดแบบกระเป๋าหิ้ว รวมทั้งเครื่องพิมพ์ดีดประเภทอื่น ๆ จำเป็นจะต้องคำนึงถึงความต้องการของผู้บริโภคเป็นสิ่งแรก ในการดำเนินงานหรือกิจกรรมต่าง ๆ ทางการตลาด เพื่อจะได้ทำการปรับปรุงส่วนผสมทางการตลาดได้อย่างเหมาะสมตรงกับความต้องการของผู้บริโภค และผลจากการศึกษาดังกล่าวจึงขอเสนอแนะให้มีการปรับปรุงในด้านต่าง ๆ ดังนี้ 1. ด้านผลิตภัณฑ์ ควรมีการปรับปรุงพัฒนาเพื่อเครื่องพิมพ์ดีดแบบกระเป๋าหิ้วให้ก้าวหน้าขึ้น ด้วยการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพทางการทำงานสูง มีความคงทนถาวร และมีความคล่องตัวในการพิมพ์ รวมทั้งจัดให้มีบริการหลังการขายอย่างเพียงพอ 2. ด้านราคา ควรรักษาระดับราคาในการจำหน่ายเครื่องพิมพ์ดีดอย่างสมเหตุผล และเหมาะสมกับคุณภาพของผลิตภัณฑ์ 3. ด้านการจัดจำหน่าย ควรมีการวางผลิตภัณฑ์จำหน่ายในร้านค้าปลีกต่างๆ อย่างสม่ำเสมอ นอกจากนี้ควรมีการปรับปรุงระบบการบริหารสินค้าคงคลังให้เหมาะสมมิให้เกิดปัญหาในด้านสินค้าขาดมือ 4. ด้านการส่งเสริมการจำหน่าย ควรจัดให้มีการเผยแพร่ข้อมูลหรือสื่อสารข้อมูลไปยังผู้บริโภคมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นด้านการโฆษณาทางหนังสือพิมพ์ นิตยสาร การจัดทำแคตตาล็อค ฯลฯ เพื่อชี้ให้เห็นถึงความตกต่างในด้านผลิตภัณฑ์และเสริมสร้างความเชื่อมั่นในชื่อเสียงหรือตรายี่ห้อของผลิตภัณฑ์ รวมทั้งการให้ผลตอบแทนแก่พนักงานขายหรือให้สิ่งจูงใจพิเศษแก่ร้านค้าปลีก ที่จัดจำหน่ายในรูปแบบต่าง ๆ เพื่อกระตุ้นและส่งเสริมให้มีการจัดจำหน่ายอย่างมีประสิทธิภาพ