Please use this identifier to cite or link to this item:
https://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/32055
Title: | การศึกษาฟิกส์ด้วยชุดคำสั่งซันฟิกส์เพื่อใช้ในการพัฒนาโปรแกรมสร้างภาพ แบบจำลอง 3 มิติ |
Other Titles: | The study of PHIGS by sunPHIGS for developing 3-D Modeling program |
Authors: | พีรวิชร์ สุนทรศิริ |
Advisors: | นงลักษณ์ โควาวิสารัช |
Other author: | จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. บัณฑิตวิทยาลัย |
Issue Date: | 2539 |
Publisher: | จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย |
Abstract: | การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาการทำงานและการใช้งานฟิกส์ โดยใช้ชุดคำสั่งซันฟิกส์รุ่น 2.0 เป็นคำสั่งตัวอย่าง รวมถึงศึกษาการนำฟิกส์มาใช้ในการพัฒนาโปรแกรมประยุตก์ด้านคอมพิวเตอร์กราฟิก โดยการทดลองสร้างโปรแกรมประยุกต์ตัวอย่าง คือ โปรแกรมสร้างภาพแบบจำลอง 3 มิติ เพื่อใช้เป็นแนวทางในการศึกษาการพัฒนาโปรแกรมด้วยฟิกส์ต่อไป โปรแกรมการสร้างภาพแบบจำลอง 3 มิตินี้ ใช้ชุดคำสั่งเอกซ์ วิวในการพัฒนาส่วนการรับข้อมูลและตัวประสานกับผู้ใช้ ส่วนซันฟิกส์รุ่น 2.0 จะถูกใช้ในการแสดงผลกราฟิกและการจัดการข้อมูลกราฟิก การสร้างภาพแบบจำลอง 3 มิติของโปรแกรมนี้จะเริ่มตั้งแต่การสร้างรูปทรง 2 มิติ และนำรูปทรง 2 มิติมากำหนดเป็นรูปทรง 3 มิติให้วัตถุ แล้วจึงนำวัตถุเหล่านั้นประกอบกันเป็นแบบจำลองที่มีลักษณะความสัมพันธ์เป็นเชิงลำดับชั้น จากนั้นจึงนำแบบจำลองที่ได้ไปใส่ในฉากและกำหนดข้อมูลแสง เพื่อทำการสร้างภาพของแบบจำลอง โดยโปรแกรมประยุกต์ที่พัฒนาขึ้นนี้ถูกออกแบบให้มีการทำงานใกล้เคียงกับลักษณะของฟิกส์ จากการศึกษาพบว่าจุดเด่นของฟิกส์ คือ ความง่ายในการใช้งาน และการไม่พึ่งพิงกับอุปกรณ์จริงใด ๆ จุดด้อยของฟิกส์ คือ ประสิทธิภาพของการจัดการการทำงานกับหน่วยเก็บโครงสร้างส่วนกลางยังไม่ดีเท่าที่ควร ส่วนจุดด้อยของซันฟิกส์รุ่น 2.0 คือ ความซับซ้อนของโครงสร้างข้อมูล การทำงานร่วมกับระบบเอกซ์ วินโดว์ และปัญหาการทำงานของอุปกรณ์นำเข้าเชิงตรรกะ การพัฒนาโปรแกรมประยุกต์โดยใช้เวิร์กสเตชันชนิดเอกซ์ ทูล จะทำได้ง่ายแต่โปรแกรมจะขาดประสิทธิภาพ ส่วนการพัฒนาโปรแกรมประยุกต์โดยใช้เวิร์กสเตชันชนิดเอกซ์ ตรอเอเบิลค่อนข้างยุ่งยาก แต่โปรแกรมจะมีประสิทธิภาพสูง โปรแกรมการสร้างภาพแบบจำลอง 3 มิตินี้ ทำงานบนเครื่องสถานีงานชนิดสปาร์ค สเตชัน ไอพีเอกซ์ ของบริษัท ซันไมโครซิสเต็ม ซึ่งมีหน่วยความจำ 32 MB ทำงานบนระบบปฏิบัติการยูนิกซ์รุ่น 4.1.2 และใช้ระบบเอกซ์ วินโดว์ ชื่อโอเพนวินโดว์รุ่น 3.0 ของบริษัท ซันไมโครซิสเต็ม ซึ่งมีตัวประสานกับผู้ใช้แบบโอเพนลุก |
Other Abstract: | The objective of this research is to study PHIGS in the way of PHIGS’s function and how to use it for developing the computer graphics applications. PHIGS’s implementation which is used in this research is SunPHIGS 2.0. The study of using PHIGS for developing applications is done by developing an application program as a case study, which is 3-D modeling Tools. The GUI of 3-D Model Design Tools were developed by using XVIEW Toolkit and SunPHIGS 2.0 for managing graphical output and graphical data. The program starts from creating 2D shape to define 3D geometry of an object. The model can be constructed by composing objects or other models whose relationships were defined in hierarchical structures. The goal of this program is to display a rendered scene which is composed of 3-D models. The functions of this program were designed to work in a similar way as the PHIGS’s. The result from this research indicates that the advantages of using PHIGs are that it is easy to use and device-independent. The disadvantage is the inefficiency of the functions for managing central structure store. The disadvantage of SunPHIGS 2.0 are the complex data structures, low performance on X window system and the inefficiency of logical input devices. Developing applications by using X Tool workstation is easy but the performance of the applications are not good, while developing applications by using X Drawable workstation is complicated but the performance is better. 3-D Model Design Tools works on SPARCSTation IPX which has at least 32 MB of memory and use UNIX release 4.1.2 for its operating system. The X Window System which is used for this program is OpenWindows 3.0. |
Description: | วิทยานิพนธ์ (วท.ม.)--จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2539 |
Degree Name: | วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต |
Degree Level: | ปริญญาโท |
Degree Discipline: | วิศวกรรมคอมพิวเตอร์ |
URI: | http://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/32055 |
ISBN: | 9746315331 |
Type: | Thesis |
Appears in Collections: | Grad - Theses |
Files in This Item:
File | Description | Size | Format | |
---|---|---|---|---|
Pirawich_so_front.pdf | 3.02 MB | Adobe PDF | View/Open | |
Pirawich_so_ch1.pdf | 2.3 MB | Adobe PDF | View/Open | |
Pirawich_so_ch2.pdf | 12.02 MB | Adobe PDF | View/Open | |
Pirawich_so_ch3.pdf | 14.6 MB | Adobe PDF | View/Open | |
Pirawich_so_ch4.pdf | 4.2 MB | Adobe PDF | View/Open | |
Pirawich_so_ch5.pdf | 2.54 MB | Adobe PDF | View/Open | |
Pirawich_so_back.pdf | 623.92 kB | Adobe PDF | View/Open |
Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.