Please use this identifier to cite or link to this item: https://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/32584
Title: Tibiofemoral joint reaction force during stance phase of backward and forward walking at varied speed
Other Titles: แรงปฏิกิริยาของข้อเข่าในช่วงที่เท้าสัมผัสพื้นขณะเดินถอยหลัง และเดินไปข้างหน้าที่ระดับความเร็วต่างๆ
Authors: Nutthapon Zonthichai
Advisors: Pasakorn Watanatada
Other author: Chulalongkorn University. Faculty of Medicine
Advisor's Email: spmed.chula@gmail.com
Subjects: Tibiofemoral joint
Knee -- Movements
Knee -- Wounds and injuries
Medical rehabilitation
ข้อเข่า -- การเคลื่อนไหว
ข้อเข่า -- บาดแผลและบาดเจ็บ
เวชศาสตร์ฟื้นฟู
Issue Date: 2010
Publisher: Chulalongkorn University
Abstract: The objective of this study is to measure tibiofemoral joint reaction force (TFJRF) during stance phase of backward and forward walking at varied speed. The participants were 54 healthy Thai male, aged 25.17 + 4.37 years, body mass index 21.15 + 1.75 kg/m². All subjects walked forward and backward on the split-belt treadmill, which could record ground reaction forces (GRF) of each foot, with 5 speeds from slowest to fastest (0.8, 1.0, 1.2, 1.4, 1.6 m/s, respectively). First direction of walking was randomized. Right GRF was used to calculate TFJRF by inverse dynamic model. In each speed of each trial, heart rate and rating of perceived exertion (RPE) were also recorded. The results demonstrate that backward walking produced higher peak TFJRF during stance phase than forward walking in every speed. Subjects had higher heart rate and RPE in every speed when backward walking, as well. However, the average TFJRF were similar in both forward and backward walking during slow speeds (below 1.0 m/s) and lower in backward walking if speed increased more than 1.2 m/s. If compared between backward walking at 1.2 m/s, which was moderate exercise intensity (69.20 + 10.37 %HR max) and forward walking at 1.6 m/s, which was light exercise intensity (58.48 + 8.12 %HR max). The peak TFJRF were similar (135.48 ± 12.75 %BW vs. 136.73 ± 4.63 %BW), and average TFJRF were lower during backward walking (83.53 ± 1.56 %BW vs. 90.66 ± 1.56 %BW). Therefore, backward walking may produce lower TFJRF than forward walking when walk with the same exercise intensity and could be used in exercise prescriptions or rehabilitation programs for ones who have tibiofemoral joint problems.
Other Abstract: การวิจัยนี้มีจุดประสงค์เพื่อศึกษาแรงปฏิกิริยาของข้อเข่าในช่วงที่เท้าสัมผัสพื้นขณะเดินถอยหลังและเดินไปข้างหน้าที่ระดับความเร็วต่างๆ ซึ่งชายไทยที่เข้าร่วมการวิจัยครั้งนี้มีจำนวน 54 คน มีอายุเฉลี่ย 25.17 + 4.37 ปี มีดัชนีมวลกายเฉลี่ย 21.15 + 1.75 กิโลกรัม/เมตร² โดยแต่ละคนทำการเดินไปข้างหน้าและถอยหลังบนเครื่องสายพานคู่ที่แยกวัดค่า Ground reaction force (GRF) ของเท้าแต่ละข้าง ด้วยความเร็ว 5 ระดับจากช้าไปเร็ว (0.8, 1.0, 1.2, 1.4, 1.6 เมตรต่อวินาที ตามลำดับ) ใช้การสุ่มในการเลือกทิศทางการเดินก่อนและหลัง ค่า GRF ของเท้าข้างขวาจะถูกนำมาคำนวณหาค่าแรงปฏิกิริยาของข้อเข่าในช่วงที่เท้าสัมผัสพื้นด้วยวิธี inverse dynamics ระหว่างทดสอบจะบันทึกอัตราการเต้นของหัวใจ และค่า rating of perceived exertion (RPE) ในทุกความเร็วด้วย ผลการศึกษาพบว่าการเดินถอยหลังมีค่าแรงปฏิกิริยาของข้อเข่าในช่วงที่เท้าเริ่มสัมผัสพื้นมากกว่าการเดินไปข้างหน้าในทุกความเร็ว และมีอัตราการเต้นของหัวใจกับค่า RPE ที่มากกว่าด้วย แต่ค่าเฉลี่ยของแรงปฏิกิริยาของข้อเข่าตลอดช่วงเวลาที่เท้าสัมผัสพื้นในการเดินถอยหลังมีค่าใกล้เคียงกับการเดินไปข้างหน้าในช่วงความเร็วที่น้อยกว่า 1.0 เมตรต่อวินาที และน้อยกว่าในช่วงความเร็วที่มากกว่า 1.2 เมตรต่อวินาที และหากเปรียบเทียบระหว่างการเดินถอยหลังด้วยความเร็ว 1.2 เมตรต่อวินาที ซึ่งเป็นการออกกำลังกายระดับปานกลาง กับการเดินไปข้างหน้าด้วยความเร็ว 1.6 เมตรต่อวินาที ซึ่งยังคงเป็นการออกกำลังกายระดับเบา พบว่ามีค่าแรงปฏิกิริยาของข้อเข่าในช่วงที่เท้าเริ่มสัมผัสพื้นที่เริ่มใกล้เคียงกัน (135.48 ± 12.75 vs. 136.73 ± 4.63 เปอร์เซ็นต์ของน้ำหนักตัว) และการเดินถอยหลังเริ่มมีค่าเฉลี่ยของแรงปฏิกิริยาของข้อเข่าตลอดช่วงเวลาที่เท้าสัมผัสพื้นที่น้อยกว่าแล้ว (83.53 ± 1.56 vs. 90.66 ± 1.56 เปอร์เซ็นต์ของน้ำหนักตัว) ดังนั้นจึงชี้ให้เห็นว่าการเดินถอยหลังอาจมีค่าแรงปฏิกิริยาของข้อเข่าในช่วงที่เท้าเริ่มสัมผัสพื้นน้อยกว่าการเดินไปข้างหน้า หากให้เดินด้วยระดับความหนักของการออกกำลังกายที่เท่ากัน ซึ่งสามารถนำมาใช้เป็นทางเลือกในการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพได้สำหรับผู้ที่มีปัญหาการบาดเจ็บของข้อ tibiofemoral
Description: Thesis (M.Sc.)--Chulalongkorn University, 2010
Degree Name: Master of Science
Degree Level: Master's Degree
Degree Discipline: Sports Medicine
URI: http://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/32584
URI: http://doi.org/10.14457/CU.the.2010.1279
metadata.dc.identifier.DOI: 10.14457/CU.the.2010.1279
Type: Thesis
Appears in Collections:Med - Theses

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
nutthapon_zo.pdf3.04 MBAdobe PDFView/Open


Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.