Please use this identifier to cite or link to this item: https://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/41467
Title: กระบวนการสื่อสารในการบังคับใช้มาตรการเพื่อยุติการผสมสารเร่งเนื้อแดงในอาหารสุกร
Other Titles: Communication process in implementing the policy to terminate the use of beta-agonist along the swine feed chain
Authors: ภาวดี ใจอ่อนน้อม
Advisors: ปาริชาต สถาปิตานนท์
Other author: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. คณะนิเทศศาสตร์
Subjects: การสื่อสาร -- แง่สังคม
เนื้อสุกร
Communication -- Social aspects
Pork
Issue Date: 2549
Publisher: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
Abstract: การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ ศึกษากระบวนการสื่อสารในการขับเคลื่อนมาตรการยุติการผสมสารเร่งเนื้อแดงในอาหารสุกรไปสู่การบังคับใช้ ศึกษาปัจจัยที่เอื้อต่อความสำเร็จในการขับเคลื่อนมาตรการยุติการผสมสารเร่งเนื้อแดงในอาหารสุกร และศึกษาทัศนะของกลุ่มบุคคลที่เกี่ยวข้องที่มีต่อแนวทางการบังคับใช้มาตรการให้เกิดความต่อเนื่องและยั่งยืน โดยใช้ระเบียบวิธีวิจัยเชิงคุณภาพ ( Qualitative Research )เก็บข้อมูลด้วยการศึกษาจากเอกสารและสัมภาษณ์แบบเจาะลึกผู้ให้ข้อมูลสำคัญ จำนวน 30 คน 1. กระบวนการสื่อสารในการขับเคลื่อนมาตรการยุติการผสมสารเร่งเนื้อแดงในอาหารสุกรไปสู่การบังคับใช้ มีขั้นตอนการดำเนินมาตรการและการสื่อสาร 3 ระยะ คือ (1) ระยะเตรียมความพร้อมก่อนดำเนินมาตรการ (2) ระยะสื่อสารมาตร การสู่กลุ่มเป้าหมาย (3) ระยะดำเนินมาตรการ 2. ปัจจัยที่เอื้อต่อการขับเคลื่อนมาตรการยุติการผสมสารเร่งเนื้อแดงในอาหารสุกร ได้แก่ (1) ปัจจัยด้านการดำเนินงาน ได้แก่ การดำเนินการตรวจ จับกุม และลงโทษอย่างจริงจังและการประณามผู้กระทำความผิดอย่างเปิดเผยต่อสาธารณชน (2) ปัจจัยด้านผู้รับสาร ได้แก่ 2.1 ผู้บริโภคตระหนักถึงอันตรายต่อสุขภาพและเลือกบริโภคมากขึ้นจนเกิดเป็นกระแสสังคม 2.2 คุณลักษณะของผู้ประกอบการฟาร์มสุกรในด้านต่างๆ ทั้ง การศึกษา ฐานะทางสังคม เศรษฐกิจ ทัศนคติ และด้านอื่นๆ (3) ปัจจัยด้านบุคคล 3.1 ความเข้มงวดและจริงจังของผู้มีหน้าที่รับผิดชอบในการดำเนินมาตรการ 3.2 การมีเจ้าภาพหลักในการทำงาน 3.3 ความเข้าใจอย่างชัดเจนในจุดมุ่งหมายของการดำเนินมาตรการ 3.4 การตั้งหน่วยเฉพาะกิจเพื่อสนับสนุนเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ต่างๆให้สามารถดำเนินมาตรการได้อย่างเต็มที่ 3.5 การประสานความร่วมมือระหว่างพันธมิตรที่เกี่ยวข้อง ทั้งหน่วยงานภาครัฐอื่นๆ เอกชน และนักวิชาการ 3.6 การรวมนโยบายต่างๆที่เกี่ยวข้องเพื่อทำการสื่อสารไปในแนวทางเดียวกันโดยอาศัยพลังของนโยบายสำคัญในการขับเคลื่อนนโยบายที่เกี่ยวข้องกัน เพื่อสร้างกระแสการรับรู้ต่อสังคม (4) ปัจจัยด้านสาร ได้แก่ 4.1 ข้อมูลในเชิงลบ 4.2 การให้ข้อมูลเกินจริง 4.3 การให้ข้อมูลแก่กลุ่มหนึ่งเพื่อกดดันอีกกลุ่มหนึ่ง 4.4 การให้ข้อมูลแก่ผู้เกี่ยวข้องหลายกลุ่มในวงกว้าง (5) ปัจจัยด้านช่องทางการสื่อสาร ได้แก่ 5.1 สื่อมวลชนให้ความร่วมมือนำเสนอข่าว 5.2 การใช้สื่อหลายชนิดผสมผสานกัน (6) บริบทแวดล้อมอื่นๆในขณะนั้น ได้แก่ 6.1 ทางเลือกและวิธีการอื่นๆเพื่อทดแทนการใช้สารเร่งเนื้อแดง 6.2 บริบทด้านเศรษฐกิจและการตลาด 3. ทัศนะของกลุ่มบุคคลที่เกี่ยวข้องที่มีต่อแนวทางการบังคับใช้มาตรการให้เกิดความต่อเนื่องและยั่งยืน มีดังนี้ (1) ต้องให้ความรู้ที่ถูกต้องแก่ผู้บริโภค (2) ควรมีการประชาสัมพันธ์ข้อมูลอย่างต่อเนื่อง (3) ควรดำเนินการควบคู่ไปกับนโยบายอื่นๆของรัฐที่สนับสนุน (4) รักษากลไกและมาตรฐานการดำเนินงานอย่างต่อ เนื่องและจริงจังของรัฐ (5) ควบคุมให้เกิดความเสมอภาคกันเพื่อมิให้ได้หรือเสียเปรียบในทางด้านเศรษฐกิจ (6) ประสานความร่วมมือระหว่างพันธมิตร
Other Abstract: This research aims to study the communication process in implementing the policy to terminate the use of beta-agonist along the swine feed chain, to investigate the factors that facilitated the implementation of the policy, and to explore the methods to sustain the policy effectiveness. The key research method is conducting in-depth interviews with 30 key informants relevant to the policy; 9 were the officers from the Department of Livestock Development and the Swine Feeding Association of Thailand, 13 were the farm entrepreneurs as the major target groups under the policy and 8 were people involved in the policy in different aspects such farm managers, consumers, etc. The findings are as the followings : 1.Communication process in implementing the policy to terminate the use of beta-agonist along the swine feed chain composed of 3 steps (1) Preparation process before implementing the policy (2) Dissemination to the major target audiences (3) Implementation of the policy among the major target audiences 2.Six factors facilitate the implementation of the policy are (1) Operational factor including the continual execution, sharp penalty, and public announcement (2) Receiver factor including social influence by the consumers and the characteristics of the farm entrepreneur (3) Sender factor including continual and strict execution, official host, understanding of the officers, special execution team, coordination among the alliances, policy integration, support from the high authority officers, and the politicians (4) Message factor including negative approach, exaggeration, influential information, and general information (5) Channel factor including mass media, and integrated media (6) Context factor including substitution of beta-agonist, and economical situation. 3.The methods to sustain the policy effectiveness are (1) educate the consumers (2) continue the public relation (3) coordinately execute the policy with other related policies (4) strictly maintain the execution standard (5) reinforce the policy to all farm entrepreneurs without exception to prevent the economic disadvantages (6) keep relation and coordination with alliances
Description: วิทยานิพนธ์ (นศ.ม.)--จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2549
Degree Name: นิเทศศาสตรมหาบัณฑิต
Degree Level: ปริญญาโท
Degree Discipline: นิเทศศาสตรพัฒนาการ
URI: http://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/41467
URI: http://doi.org/10.14457/CU.the.2006.28
metadata.dc.identifier.DOI: 10.14457/CU.the.2006.28
Type: Thesis
Appears in Collections:Comm - Theses

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
Pawadee_ch_front.pdf3.31 MBAdobe PDFView/Open
Pawadee_ch_ch1.pdf3.67 MBAdobe PDFView/Open
Pawadee_ch_ch2.pdf22.04 MBAdobe PDFView/Open
Pawadee_ch_ch3.pdf3.22 MBAdobe PDFView/Open
Pawadee_ch_ch4.pdf33.75 MBAdobe PDFView/Open
Pawadee_ch_ch5.pdf26.62 MBAdobe PDFView/Open
Pawadee_ch_back.pdf6.73 MBAdobe PDFView/Open


Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.