การแสดงออกของวาสคูลาร์ เอนโดทีเลียล โกรทแฟคเตอร์ ในโรคกระดูกสันหลังส่วนเอวเสื่อม

Abstract

โรคกระดูกสันหลังส่วนเอวเสื่อมเป็นโรคที่พบมากในผู้สูงอายุ การหนาตัวของชิ้นเอ็น ligamentum flavum (LF) เป็นพยาธิสภาพที่สำคัญของโรคซึ่งทำให้เกิดการตีบแคบของช่องไขสันหลังส่วนเอวและมีการกดทับเส้นประสาท การหนาตัวของชิ้นเอ็น ligamentum flavum อาจเกี่ยวข้องกับ vascular endothelial growth factor (VEGF) ซึ่งมีบทบาทในการสร้างหลอดเลือดใหม่และส่งผลต่อการซ่อมแซมเนื้อเยื่อ ดังนั้นงานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาการแสดงออกระดับยีนและโปรตีน VEGF ในชิ้นเอ็น ligamentum flavum ของผู้ป่วยโรคกระดูกสันหลังส่วนเอวเสื่อมที่มีช่องไขสันหลังส่วนเอวตีบแคบในระดับกระดูกสันหลังที่เกิดรอยโรคและ ligamentum flavum ในระดับกระดูกสันหลังที่ไม่เกิดรอยโรค จำนวน 24 ราย โดยวิเคราะห์การแสดงออกของ VEGF ระดับยีนด้วยวิธี reverse transcriptase- polymerase chain reaction (RT-PCR) และ real time RT-PCR รวมทั้งศึกษาการแสดงออกของโปรตีน VEGF ด้วยวิธี enzyme-linked immunosorbent assay (ELISA) และ immunohistochemistry จากผลการศึกษาการแสดงออก VEGF ใน LF ที่หนาตัวมีค่าสูงกว่าใน LF ปกติอย่างมีนัยสำคัญ (P=0.004) และค่าความเข้มของแถบการแสดงออกของ VEGF ใน LF ที่เกิดรอยโรคมีค่าสูงกว่าที่ไม่เกิดรอยโรคอย่างมีนัยสำคัญ (P=0.0002) นอกจากนี้ระดับโปรตีน VEGF ใน LF ที่หนาตัว มีค่ามากกว่าใน LF ปกติอย่างมีนัยสำคัญ (P=0.017) รวมทั้งระดับโปรตีน VEGF ใน LF หนาตัวมีความสัมพันธ์กับการหนาตัวของชิ้นเอ็น LF ซึ่งบ่งชี้ถึงระดับความรุนแรงของโรค ผลการศึกษาทางอิมมูโนพยาธิวิทยาพบการย้อมติดโปรตีน VEGF ภายในชิ้นเอ็น ligamentum flavum ที่เกิดรอยโรคมากกว่าชิ้นเอ็นที่ไม่เกิดรอยโรคและยังพบลักษณะของหลอดเลือดเล็ก ๆ ในชิ้นเอ็นที่เกิดรอยโรค นอกจากนี้ไม่พบความแตกต่างในการแสดงออกของ VEGF ระหว่างเพศชายและเพศหญิง อีกทั้งการแสดงออกของยีนและโปรตีน VEGF ไม่สัมพันธ์กับอายุในชิ้นเอ็นที่ไม่เกิดรอยโรค การศึกษานี้สรุปได้ว่าการแสดงออก VEGF ในชิ้นเอ็น ligamentum flavum ที่สูงขึ้นมีความสัมพันธ์กับการเสื่อมจากการหนาตัวของ LF ซึ่งอาจเป็นสาเหตุของโรคกระดูกสันหลังส่วนเอวเสื่อมที่มีช่องไขสันหลังส่วนเอวตีบแคบ