ความแม่นยำของ Urease test ที่ผลิตขึ้นเอง (inhouse) และ CLO test เทียบกับการตรวจทางวิทยาฮิลโต ในการวินิจฉัยการติดเชื้อ Helicobacter Pylori

Abstract

ปัจจุบันการตรวจหาการติดเชื้อ Helicobacter pylori ในกระเพาะอาหารนิยมใช้การตรวจโดยวิธี rapid urease test โดย rapid urase test ที่มีจำหน่ายและใช้กันอย่างแพร่หลายคือ CLO test® ซึ่งมีราคาแพงและต้องนำเข้าจากต่างประเทศ การศึกษานี้จึงมุ่งศึกษาถึงความแม่นยำของ urease test ที่ผลิตขึ้นเองและ CLO test® เทียบกับการ ตรวจทางวิทยาฮิสโต ผู้ป่วยที่มารับการส่องกล้องตรวจในกระเพาะอาหาร และมีข้อบ่งชี้ในการตรวจหาเชื้อ Helicobacter pylori จะได้รับการตัดชิ้นเนื้อจากกระเพาะบริเวณ antrum และ body แห่งละ 3 ชิ้น เพื่อตรวจหาเชื้อ Helicobacter pylori โดยการใช้ CLO test® และ urease test ที่ผลิตขึ้นเองและการตรวจทางวิทยาฮิสโต โดยจะศึกษาถึงความแม่นยำความไว และความจำเพาะของ CLO test® และ urease test ที่ผลิตขึ้นเอง เทียบกับการตรวจทางวิทยาฮิสโต มีผู้ป่วยได้รับการตรวจหาเชื้อ Helicobacter pylori โดยการตรวจทั้ง 3 วิธี 83 ราย พบว่ามีผู้ป่วยที่สามารถค้นสไลด์ให้พยาธิแพทย์ผู้ร่วมวิจัยทบทวนสไลด์ได้ 70 ราย ซึ่งตรวจพบว่าติดเชื้อ H. pylori จากการตรวจทางวิทยาฮิสโต 32 รายไม่ติดเชื้อ 38 ราย ในจำนวนผู้ป่วย 32 รายที่พบเชื้อ Helicobacter pylori พบว่า 29 ราย ตรวจพบเชื้อโดย CLO test® 24 และ 27 ราย ตรวจพบโดย urease test ที่ผลิตขึ้นเอง เมื่ออ่านผลที่ 24 และ 48 ชั่วโมงตามลำดับ จากการวิเคราะห์ทางสถิติพบว่า ความแม่นยำของ CLO test® และ urease test ที่ผลิตขึ้นเอง เมื่ออ่านผลที่ 24 และ 48 ชั่วโมง เท่ากับร้อยละ 85.71, 82.85 และ 82.85 ตามลำดับ , ความไวเท่ากับร้อยละ 90.62, 75.00 และ 84.37 และความ จำเพาะเท่ากับร้อยละ 81.57, 89.47 และ 81.57 ตามลำดับ เมื่อเปรียบเทียบ ระหว่าง CLO test® และ urease test ที่ผลิตขึ้นเอง พบว่า มีความสัมพันธ์กันมาก เมื่ออ่านผลของ urease test ที่ผลิตขึ้นเองหลังจากใส่ชิ้นเนื้อลงตรวจ 48 ชั่วโมง จนถือได้ว่าสามารถใช้แทนกันได้ (Kappa r-value = 0.9040, P < 0.0001) ดังนั้นการตรวจหาเชื้อ Helicobacter pylori ด้วยวิธี CLO test® และ urease test ที่ผลิตขึ้นเอง มีความแม่นยำดีเมื่อเทียบกับการตรวจทางวิทยาฮิสโต ซึ่งใช้เป็นการตรวจมาตรฐาน