ระดับเอนไซม์ ครีเอตีน ไคเนส เอ็มบี ไอโซเอนไซม์ ครีเอตีน ฟอสโฟไคเนส และคาร์ดิแอค โทรโปนิน ที ในผู้ป่วยโรคไตวายเรื้อรัง ในโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์

Abstract

การวินิจฉัยภาวะกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลันในผู้ป่วยโรคไตวายเรื้อรัง โดยใช้น้ำย่อยกล้ามเนื้อหัวใจ Creatine phosphokinase (CPK) Creatine kinase MB isoenzyme (CKMB) และการวินิจฉัยภาวะ Unstable angina pectoris ที่มีความเสี่ยงสูงในผู้ป่วยโรคไตวายเรื้อรัง โดยใช้ Cardiac troponin T (cTnT) อาจทำให้เกิดความสับสนในการวินิจฉัยได้ เพราะผู้ป่วยโรคไตวายเรื้อรัง มีระดับน้ำย่อยกล้ามเนื้อหัวใจ และ cTnT เบื้องต้นสูงกว่าปกติอยู่แล้ว การศึกษาครั้งนี้ เป็นการศึกษาผู้ป่วยโรคไตวายเรื้อรัง ที่มีค่าครีเอตินีน ตั้งแต่ 2.0 มก/ดล. ขึ้นไป เพื่อหาความชุกของการมีภาวะ CPK และ CKMB ที่มากกว่าค่าปกติ และหาความชุกของภาวะ Cardiac Troponin T มากกว่า 0.1 นก/มล. และหาความสัมพันธ์ของ CK, CKMB และ Cardiac troponin T กับระดับของครีเอตินีน นอกจากนี้ยังศึกษาเปรียบเทียบกับกลุ่มควบคุมเพื่อดูความแตกต่างของ CPK, KMB และcTnT โดยเก็บ Clotted blood ในหลอดสูญญากาศปั่นเก็บซีรัมและตรวจหา CPK activity ด้วยวิธี optimized UV method ตรวจหา CKMB activity ด้วยวิธี enzyme immunologic assay และ ตรวจหา cTnT ด้วยวิธี electrochemiluminescent assay จากบริษัท Berringer Mannhiem ผลการศึกษาพบว่า ความชุกของ CPK ที่มีค่ามากกว่าปกติเท่ากับร้อยละ 20.7 CKMB ที่มากกว่าปกติเท่ากับร้อยละ 8.1 และ cTnT ที่มากกว่าหรือเท่ากับ 0.1 ng/ml เท่ากับร้อยละ 14.4 โดย cTnT มีค่าแปรผัน ตรงกับระดับของครีเอตินีน ส่วน CPK . CKMB ไม่มีความสัมพันธ์กับค่าครีเอตินีน ค่าเฉลี่ยของ CPK ในผู้ป่วยไตวายเรื้อรังแตกต่างกับกลุ่มควบคุมอย่างไม่มีนัยสำคัญทางสถิติ แต่ค่า cTnT ในผู้ป่วยไตวายสูงกว่ากลุ่มควบคุม อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ และ cTnT ในกลุ่มควบคุมมีค่าสูงกว่าในผู้ป่วยไตวายเรื้อรังอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ CPK และ CKMB สามารถนำมาใช้ในการแปรผลเพื่อช่วยในการวินิจฉัยโรคกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลันในผู้ป่วยไตวายเรื้อรังได้เนื่องจากไม่มีความแตกต่างระหว่างกลุ่มควบคุมและกลุ่มทดลองสำหรับ cTnT มีโอกาสเกิดผลบวกลวงได้ประมาณร้อยละ 8 จึงควรแปรผลด้วยความระมัดระวังในผู้ป่วยในไตวายเรือรัง