Abstract:
ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรที่เกิดขึ้นจากตัวผู้เรียนกับผลสัมฤทธิ์ในการเรียนภาษอังกฤษด้วยวิธีเรียนด้วยตนเอง ตัวแปรข้างต้นประกอบด้วย ก. ความถนัดทางการเรียนภาษา ข. ทัศนคติและแรงจูงใจ ค. ความเข้าใจเรื่องรูปทรง 2 มิติ และ 3 มิติ ง. กลวิธีทางการเรียน จ. จำนวนปีที่ได้เรียนภาษาอังกฤษ นอกจากนี้ งานวิจัยเรื่องนี้ยังศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างวิธีเรียน และสัมฤทธิ์ผลทางการเรียนภาษาอังกฤษด้วยตนเอง วิธีเรียนประกอบด้วย ก. เรียนโดยการอ่านและฟัง ข. เรียนโดยการอ่านเพียงอย่างเดียว ค. เรียนโดยการฟังเพียงอย่างเดียว กลุ่มตัวอย่างประกอบด้วยนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 7 จำนวน 97 คน ซึ่งเป็นผู้เริ่มเรียนภาษาอังกฤษ ที่จัดเข้ากลุ่มตามผลการสอบข้อทดสอบมาตรฐานความสามารถภาอังกฤษ ข้อมูลที่ใช้ศึกษาได้แก่ ความถนัดทางการเรียนภาษา ทัศนคติแรงจูงใจ กิจนิสัยในการเรียน ความเข้าใจเรื่องรูปทรง 2 มิติ และ 3 มิติ และผลสัมฤทธิ์ในการเรียนภาษาอังกฤษระหว่างเรียนและภายหลังการเรียนบทเรียน 20 หน่วย ผลการวิจัยให้ผลดังนี้ 1. ตัวแปรด้านผู้เรียนสามารถใช้อธิบายผลสัมฤทธิ์ในการเรียนภาษาอังกฤษด้วยตนเอง 21% 2. ทัศนคติและแรงจูงใจมีส่วนร่วมในความแปรปรวนกับผลสัมฤทธิ์ในการเรียนภาษาอังกฤษด้วยตนเอง 31% 3. ความเข้าใจเรื่องรูปทรง 2 มิติ และ 3 มิติ และผลสัมฤทธิ์ในการเรียนภาษาอังกฤษด้วยตนเอง ไม่มีความสัมพันธ์กันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ 4. วิธีเรียนมีส่วนร่วมในความแปรปรวนกับผลสัมฤทธิ์ในการเรียนภาษาอังกฤษด้วยตนเอง 32% 5. วิธีการเรียนโดยการอ่านและฟังร่วมกัน และการเรียนโดยการอ่านเพียงอย่างเดียว ช่วยให้นักเรียนมีสัมฤทธิผลทางการเรียนภาษาอังกฤษสูงกว่าการเรียนโดยการฟังเพียงอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ทั้งนี้อาจจะเป็นไปได้ว่านักเรียนมีความคุ้นเคยกับการเรียนโดยการอ่านมากกว่าการฟังเพียงอย่างเดียว ผลการวิจัยชี้ให้เห็นถึงความสำคัญในการฝึกภาษาโดยการอ่านร่วมกับการฟัง จะช่วยให้ผู้เรียนมีสัมฤทธิผลทางการเรียนภาษาอังกฤษได้ดี