การวิเคราะห์ข้อความรู้ในวิทยานิพนธ์ครุศาสตร์มหาบัณฑิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในช่วงปีการศึกษา 2525-2528

Abstract

การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อวิเคราะห์ลักษณะข้อความรู้ที่ปรากฏในวิทยานิพนธ์ครุศาสตร์มหาบัณฑิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในช่วงปีการศึกษา2525-2528 ประชากรของการวิจัยคือ วิทยานิพนธ์ขององครุศาสตร์มหาบัณฑิต ทั้งสิ้น 10 ภาควิชาที่ผลิตออกมาในช่วงปีการศึกษา2525-2528จำนวน 1,206 เล่ม การเก็บรวบรวมข้อมูลใส่แบบวิเคราะห์ลักษณะข้อความข้อมูลงานวิจัยทางการเกษตรเป็นเครื่องมือ และทำการวิเคราะห์ข้อมูล โดยใช่ความถี่ ร้อยละ และการวิเคราะห์เนื้อหาข้อค้นพบที่ได้มีดังนี้ 1. ข้อความรู้ที่มหาบัณฑิตศึกษาส่วนใหญ่ เป็นข้อความรู้ที่อธิบายสภาพของตัวแปรเฉพาะภาควิชาจิตวิทยา ภาควิชาวิจัยการศึกษา และภาควิชาโสตทัศนศึกษา เท่านั้นที่ส่วนใหญ่ศึกษาข้อความรู้ที่อธิบาย ความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปร2. สาระทางการศึกษาของข้อความรู้ที่มหาบัณฑิตศึกษาเป็นจำนวนมากตามลำดับ คือ สาระ เกี่ยวกับส่วนประกอบทางการศึกษาและการจัดการศึกษา อันได้แก่ สาระด้านการจัดการศึกษา ซึ่งประกอบด้วย สาระย่อยเกี่ยวกับกระบวนการเรียนการสอนและกระบวนการบริหารการศึกษา สาระด้านบริบททางการศึกษา สาระด้านผู้เรียน สาระด้านผลผลิต สาระด้านเนื้อหา และสาระด้านหลักสูตร และมีการศึกษาจำนวนน้อยในสาระด้านพื้นฐานทางการศึกษา การวิจัยทางการศึกษา การศึกษาโครงการ และสาระที่ไม่เกี่ยวกับการศึกษา3. บริบทและวิธีการวิจัยของข้อความรู้ที่มหาบัณฑิตศึกษา ส่วนใหญ่เป็นการวิจัยประยุกต์ และ เป็นการศึกษาในปัจจุบันขณะที่ทำวิจัย โดยใส่ระเบียบวิธีวิจัยเชิงบรรยาย โดยเฉพาะประเภทการสำรวจใช้ข้อมูลการประเมินสภาพหรือพฤติกรรมตามการรับรู้ของกลุ่มตัวอย่าง รองลงมาคือ ข้อมูลสภาพจริงหรือ พฤติกรรมจริงมีเพียงส่วนน้อยที่เป็นข้อมูลในลักษณะผลการประเมินสภาพหรือพฤติกรรมโดยผู้วิจัยหรือผู้ช่วยวิจัย และข้อมูลที่เป็นความคิดเห็นทั่วไป โดยเครื่องมือที่ใส่ในการรวบรวมข้อมูลนั้นเป็นแบบสอบถามมากที่สุดระดับการศึกษาที่ศึกษามากที่สุด คือระดับมัธยมศึกษา มีการศึกษาในระดับก่อนประถมศึกษา เพียงเล็กน้อยงานส่วนใหญ่เป็นการศึกษาที่เกี่ยวข้องกับหลายวิชา รองลงมาคือศึกษาเกี่ยวกับวิชาทางด้านทักษะ คือ คณิตศาสตร์ ภาษาไทย และภาษาอังกฤษ สำหรับแหล่งข้อมูลที่ใส่มากที่สุด คือนักเรียนระดับมัธยมศึกษาส่วนพื้นที่ที่เก็บรวบรวมข้อมูลมีกระจายทั้ง 4 ภาค แต่เน้นในจังหวัดใหญ่ภาคที่มีการเก็บข้อมูลมากที่สุด คือ ภาคกลาง โดยเฉพาะกรุงเทพมหานคร