Please use this identifier to cite or link to this item: https://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/65523
Title: ปัจจัยในการตัดสินใจซื้อบ้านพักตากอากาศในเขตโรงแรม : กรณีศึกษา โครงการบันยันทรี รีสอร์ท จังหวัดภูเก็ต
Other Titles: Factors affecting decision to purchase vacation home within hotel property : a case study of Banyan Tree Resort Project, Phuket Province
Authors: จงรักษ์ พฤกษ์ประเสริฐ
Advisors: มานพ พงศทัต
ไตรรัตน์ จารุทัศน์
Other author: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์
Advisor's Email: Manop.B@Chula.ac.th
Trirat.J@Chula.ac.th,trirat13@gmail.com
Subjects: บ้านพักตากอากาศ
การซื้อบ้าน
นักท่องเที่ยว
Vacation homes
House buying
Tourists
Issue Date: 2546
Publisher: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
Abstract: รัฐบาลได้กำหนดนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยว มีผลทำให้จังหวัดภูเก็ต ซึ่งมีชื่อเสียงระดับโลก ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้นทุกปี โดยเฉพาะหลังจากวิกฤตเศรษฐกิจในปี 2540 เป็นต้นมามีผลทำให้ความต้องการที่พักอาศัยประเภทบ้านพักตากอากาศมีมากขึ้น ผู้วิจัยได้นำบ้านพักตากอากาศของโครงการบันยันทรี รีสอร์ท ที่นำออกขายแล้ว 12 หน่วย มาเป็น กรณีศึกษา โดยมีจุดประสงค์เพื่อการวิจัยให้ได้ข้อสรุปถึงปัจจัยต่าง ๆ ที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อบ้านตากอากาศที่อยู่ในเขตโรงแรม อันจะเป็นประโยชน์ต่อทางราชการและเอกชน ในการพัฒนาที่พักอาศัยประเภทนี้ จากการศึกษาประชากร 2 กลุ่ม คือ กลุ่มผู้ที่ซื้อแล้วและผู้ที่ยังไม่ได้ซื้อ พบว่า กลุ่มที่ 1) กลุ่มผู้ซื้อบ้านพักตากอากาศแล้ว ส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวชาวยุโรปที่คุ้นเคยกับประเทศไทย และภูเก็ตค่อนข้างดี มีวัตถุประสงค์ในการซื้อ เนื่องจากได้รับผลตอบแทนจากส่วนแบ่งกำไรของค่าเช่าที่ทางโรงแรมนำไปบริหาร ในช่วงเวลาที่เจ้าของบ้านไม่ได้อยู่อาศัย บุคคลกลุ่มนี้อายุอยู่ระหว่าง 46-55 ปี มีครอบครัวแล้ว มีบุตรตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปต้องการขนาดบ้าน 301-350 ตารางเมตร ใกล้เคียงกับที่พักอาศัยเดิมที่อยู่ มี 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำและมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่เป็นส่วนตัว เช่น สระว่ายน้ำ จากูซี่ สวน ความหรูหราต่าง ๆ ที่เป็นส่วนตัว รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ของทางโครงการ เช่น สนามกอล์ฟ และความปลอดภัย คนกลุ่มนี้จะซื้อกับเจ้าของโครงการโดยตรง ไม่ผ่อนกับธนาคาร ราคาที่ต้องการซื้ออยู่ระหว่าง 14-16 ล้านบาท มีรายได้มากกว่า 10 ล้านบาทต่อปี กลุ่มที่ 2) เป็นกลุ่มผู้ที่ยังไม่ได้ซื้อบ้านพักตากอากาศ ส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวชาวเอเชีย มีทั้งโสด และสมรสแล้ว มีบุตรเฉลี่ย 1 คน อายุระหว่าง 36-45 ปี รู้จักภูเก็ตผ่านทางสื่อสิ่งพิมพ์ ส่วนใหญ่มาเที่ยวภูเก็ตเป็นครั้งแรก ในลักษณะท่องเที่ยวระยะสั้นหากมีโอกาสคนกลุ่มนี้ต้องการซื้อบ้านพักตากอากาศจะมีขนาด 271-300 ตารางเมตร มี 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบถ้วนเหมือนกลุ่มแรกต้องการซื้อบ้านราคาตํ่ากว่า 10 ล้านบาท คนกลุ่มนี้มีรายได้เฉลี่ยตํ่ากว่า 10ล้าน คนทั้งสองกลุ่ม ต้องการเป็นเข้าของอสังหาริมทรัพย์ ในลักษณะถือครองกรรมสิทธิในพื้นดิน แต่ติดปัญหาด้านกฎหมาย ดังนั้นหากต้องการให้เกิดมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ รัฐบาลต้องกำหนดนโยบาย ที่เอื้ออำนวยต่อการพักอาศัยระยะยาว โดยปรับปรุงเรื่องการถือครองกรรมสิทธิ์ในที่ดิน, การอนุญาตทำงานในประเทศ ทั้งนี้จะต้องมีมาตรการในด้านความมั่นคงของประเทศ, การ กระจายรายได้สู่ชุมชน, การส่งเสริมให้มีปฏิสัมพันธ์ระหว่างนักท่องเที่ยวกับคนในท้องถิ่น ตลอดจนการควบคุมรักษาสภาพสิ่งแวดล้อม หากรัฐบาลสามารถกำหนดแนวนโยบายด้านเคหะการที่ตรงต่อความต้องการของกลุ่มนักท่องเที่ยวเป้าหมายได้แล้ว ก็สามารถสร้างโอกาสที่จะได้นักท่องเที่ยวคุณภาพสูงเข้ามาพักพิงในภูเก็ตมากขึ้น
Other Abstract: With the government promoting tourism policies, after the economic crisis in 1997, the demand for vacation homes in Phuket, one of the world most popular destinations, has been increasing rapidly. The researcher has used the 12 unit Banyan Tree Resort property sales for the case study. The objective of this research is to summarize the different criteria that affect the decision in purchasing the vacation home in a hotel ambience. This study will be beneficial both to the government and private sector in supplying the property market. The objects of the study are divided into two groups: the buyers and the potential buyers. The findings are as follows: Group 1: The buyers. Most of them are European tourists who know Phuket and Thailand very well. The objective of the purchase is the return on investment from renting the property managed by the hotel. Their ages are between 46 - 55, married with the average of two children. The size of the house is similar to their permanent home, 301 - 350 square meter, with two bedrooms and two bathrooms, and the facilities including private pool, jacuzzi, and garden. And other luxurious facilities provided by the project include a golf course and security system. The units were purchased directly from the project owner with the involvement of no financial institutions. The prices affordable were between MB 14 - 16 with the average annual income of above MB 10. Group 2: Potential buyers. Most of them are Asians, both single and married with an average of one child. Their ages are between 36 - 45, and they know about Phuket from publications. Most of them come to Phuket for the first time as short stay tourists. The size of the units preferred is 271 - 300 square meter, with two bedrooms, two bathrooms and all facilities as the first group. The unit price should be less than MB 10 as their annual income is less than MB 10. Both groups have a demand for the free hold right of property but are restricted by Thai law. To enhance the economic value chain in tourism and related industry, the government has to improve the law regarding the right of property policy. Long stay visa should be provided as an option with the work permit. Security policy, distribution of the community income, the relationship between the tourists and local community together with the ecology of the environment should be considered. If all these necessary policies about the property demand are met, more quality tourists will visit Phuket.
Description: วิทยานิพนธ์ (คพ.ม.)--จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2546
Degree Name: เคหพัฒนศาสตรมหาบัณฑิต
Degree Level: ปริญญาโท
Degree Discipline: เคหการ
URI: http://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/65523
URI: http://doi.org/10.14457/CU.the.2003.624
ISBN: 9741751451
metadata.dc.identifier.DOI: 10.14457/CU.the.2003.624
Type: Thesis
Appears in Collections:Arch - Theses

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
Jongruk_pr_front_p.pdfหน้าปก บทคัดย่อ และสารบัญ1.06 MBAdobe PDFView/Open
Jongruk_pr_ch1_p.pdfบทที่ 11 MBAdobe PDFView/Open
Jongruk_pr_ch2_p.pdfบทที่ 22.39 MBAdobe PDFView/Open
Jongruk_pr_ch3_p.pdfบทที่ 32.89 MBAdobe PDFView/Open
Jongruk_pr_ch4_p.pdfบทที่ 4756.49 kBAdobe PDFView/Open
Jongruk_pr_ch5_p.pdfบทที่ 52.14 MBAdobe PDFView/Open
Jongruk_pr_ch6_p.pdfบทที่ 61.81 MBAdobe PDFView/Open
Jongruk_pr_back_p.pdfรายการอ้างอิง และภาคผนวก3.81 MBAdobe PDFView/Open


Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.