Please use this identifier to cite or link to this item: https://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/48513
Full metadata record
DC FieldValueLanguage
dc.contributor.advisorปิยรัตน์ กฤษณามระ-
dc.contributor.authorสมพิชญ์ วิมลเศรษฐ-
dc.contributor.otherจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. บัณฑิตวิทยาลัย-
dc.date.accessioned2016-06-09T07:39:41Z-
dc.date.available2016-06-09T07:39:41Z-
dc.date.issued2526-
dc.identifier.isbn9745618411-
dc.identifier.urihttp://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/48513-
dc.descriptionวิทยานิพนธ์ (บช.ม.)--จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2526en_US
dc.description.abstractวิทยานิพนธ์นี้มีวัตถุประสงค์เพื่อที่จะทำการศึกษา ค้นคว้า ถึงหลักการและแนวทางปฏิบัติ ในการให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ธุรกิจอุตสาหกรรมของบรรษัทเงินทุนอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ซึ่งมีฐานะเป็นธนาคารพัฒนาของประเทศไทย และมีแนวทางการปฏิบัติที่แตกต่างจากสถาบันการเงินอื่นๆ โดยทั่วไปในการให้ความสนับสนุนทางการเงินแก่โครงการการอุตสาหกรรม ในการดำเนินงานวิจัยและค้นคว้าครั้งนี้ ได้ทำการศึกษาจากหลักและวีธีปฏิบัติงานจริงของบรรษัทในด้านต่างๆ ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด โดยเริ่มตั้งแต่การพิจารณารับโครงการ การศึกษาวิเคราะห์โครงการ จนกระทั่งการติดตามโครงการที่ได้รับอนุเคราะห์จากบรรษัทและได้ศึกษาถึงปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับโครงการอุตสาหกรรมในประเทศไทยจากประสบการณ์ของบรรษัท การวิจัยจะแบ่งขั้นตอนการให้ความช่วยเหลือของบรรษัทออกเป็น 2 ขั้นตอนหลักคือ ขั้นการวิเคราะห์โครงการ และขั้นการติดตามโครงการที่ได้รับเงินกู้จากบรรษัท ซึ่งได้รวมการสรุปถึงปัญหาต่างๆ ที่มักเกิดกับกิจการอุตสาหกรรมของไทยเฉพาะ ในการสร้างโครงการ และดำเนินงานตามโครงการ รวบรวมสาเหตุของปัญหาต่างๆ และวิธีการของบรรษัทในการช่วยเหลือเพื่อแก้ปัญหาของโครงการที่เกิดปัญหา เพื่อให้โครงการนั้นๆ สามารถอยู่รอดได้ในที่สุด นอกจากนี้ ยังได้มีการศึกษาถึงลักษณะทางธุรกิจและการดำเนินงานของบรรษัทรวมทั้งบทบาทของบรรษัทที่มีต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมในประเทศไทย งานวิจัยนี้ จะเป็นประโยชน์สำหรับผู้สนใจในเรื่องเหล่านี้คือ 1. การให้สิ้นเชื่อแก่โครงการอุตสาหกรรม 2. ลักษณะของปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นในการดำเนินธุรกิจอุตสาหกรรมในประเทศ 3. บทบาทของบรรษัทที่มีต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมของประเทศไทย และผลจากการวิจัยปรากฏว่า บรรษัทได้มีส่วนในการพัฒนาอุตสาหกรรมของประเทศอยู่ไม่น้อย โดยบรรษัทเป็นสถาบันการเงินที่ตั้งขึ้นเพื่อจัดหาเงินทุนระยะเวลากลางและระยะยาว ที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำแก่ธุรกิจอุตสาหกรรมในประเทศไทยและได้ส่งเสริมให้เกิดโครงการอุตสาหกรรมมที่มีคุณค่าและมีความสำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศไทย ดังนี้ 1) เป็นกิจการอุตสาหกรรมขนาดกลางขึ้นไปในภาคเอกชน 2) เป็นกิจการอุตสาหกรรมที่เกิดขึ้นใหม่ ซึ่งหาแหล่งเงินทุนสนับสนุนจากธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงินอื่นได้ค่อนข้างยาก เนื่องจากมีความเสี่ยงทางธุรกิจสูง 3) เป็นกิจการอุตสาหกรรมที่มีคุณค่างทางเศรษฐกิจสูง เช่น เป็นกิจการที่ใช้วัตถุดิบ ภายในประเทศและผลิตเพื่อการส่งออก เป็นกิจการที่จะก่อให้เกิดการว่าจ้างแรงงานเพิ่มขึ้นเป็นกิจการที่ผลิตเพื่อทดแทนการนำเข้าซึ่งจะก่อให้เกิดการประหยัดเงินตราต่างประเทศ เป็นกิจการอุตสาหกรรมขั้นพื้นฐาน และเป็นกิจการที่มีการโอนเทคโนโลยีการผลิต เป็นต้น 4) เป็นกิจการอุตสาหกรรมด้านเกษตร ซึ่งบรรษัทได้ส่งเสริมในอัตราที่สูงกว่าธนาพาณิชย์ และสถาบันการเงินอื่นๆ นอกจากนี้ บรรษัทได้มีส่วนในการจัดตั้งหน่วยงานต่างๆ ที่จะสร้างอุปทานของปัจจัยในการผลิตต่างๆ ไว้ให้พร้อม เพื่ออำนวยความสะดวกในการประกอบกิจการอุตสาหกรรม และดึงดูดให้เกิดผู้ประกอบการรายใหม่ๆ ดังนั้นการดำเนินงานของบรรษัทที่ผ่านมา จึงจัดได้ว่าบรรษัทได้สนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาอุตสาหกรรมของประเทศไทยแล้วอย่างดีที่สุด ข้อเสนอแนะจากการวิจัยคือ เนื่องจากตลอดเวลากว่า 20 ปี การดำเนินงานของบรรษัท บรรษัทได้จำกัดความช่วยเหลือทางการเงินแก่ธุรกิจอุตสาหกรรมเฉพาะในส่วนของเงินลงทุนในสินทรัพย์ประจำ และจำกัดบทบาทของตนเองเฉพาะกิจกรรมด้านตลาดทุน (Capitial Market) โดยเคร่งครัดเท่านั้น แต่ในปัจจุบัน บรรษัทควรเพิ่มบทบาทหรือขยายกิจกรรมทางด้านตลาดเงิน (Money Market) ด้วย เพื่อให้สามารถสนับสนุนธุรกิจอุตสาหกรรมได้สมบูรณ์ยิ่งขึ้นen_US
dc.description.abstractalternativeThis thesis is purposed to study how IFCT, as the only development bank of Thailand, finances industrial projects and the way of IFCT’s project financing is much different from other Financial institutions. The research has been prepared by studying the concepts and assumptions from IFCT’s relevant daily operations covering project screening, project evaluation and project follow-up. The study of the common problems that are often encountered by industrial enterprises in Thailand is also concentrated. The study of IFCT’s project financing is carried out in two steps as follows : the step of project study and the step of project supervision. The types of problems which occur in the stage of project implementation and project operation are collected including the causes of problems and the way IFCT handles its problem project. Moreover, the study is also carried out on the corporate structure of IfCT and its role on the development of industry of Thailand. Therefore, this research will be an advantage for those who are interested in: 1. Long-term project financing. 2. Features of various problems in operating industrial enterprises which should be know. 3. IFCT’s role on the development of industry in Thailand. The result of the research appears that IFCT has taken a major role on the development of industry in Thailand. Since IFCT is the financial institute providing medium and long term loan with low interest rates to industrial enterprises in Thailand, IFCT has promoted many industrial projects considered contributable and important for the economic and social development in Thailand as follow: 1) Medium and large size industrial enterprises in the private sector. 2) New industrial enterprises which commercial banks and other financial institutes consider as risky projects and do not give financial support. 3) Industrial enterprises that have considerable economic value such as : projects using local materials in the process and exporting the finished products, labour intensive projects, import subsitutional projects which will save the foreign currency, basic industry projects and technology-transfer projects, etc. 4) Agro-industrial projects, on which IFCT has taken a greater role in the promotion than commercial banks and other financial institute. Besides, IFCT has taken part in coporating business units which will take charge in supplying other production factors in order to industrial business. Therefore, it can be said that IFCT has made its best in the attempt to attain the industrial development’s goal of the government. The suggestion of the research is that after more than 20 years of operation and activities which IFCT has strictly concerned with the sector of capital market, IFCT should expand its activities to the sector of money market in order to give a greater financial support to industrial enterprises.en_US
dc.language.isothen_US
dc.publisherจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยen_US
dc.rightsจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยen_US
dc.titleการให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ธุรกิจอุตสาหกรรม ของบรรษัทเงินทุนอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยen_US
dc.title.alternativeFinancial aids granted to industrial enterprises by the industrial finance corporation of Thailanden_US
dc.typeThesisen_US
dc.degree.nameบัญชีมหาบัณฑิตen_US
dc.degree.levelปริญญาโทen_US
dc.degree.disciplineการบัญชีen_US
dc.degree.grantorจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยen_US
dc.email.advisorไม่มีข้อมูล-
Appears in Collections:Grad - Theses

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
Sompijya_wi_front.pdf1.66 MBAdobe PDFView/Open
Sompijya_wi_ch1.pdf505.97 kBAdobe PDFView/Open
Sompijya_wi_ch2.pdf2.52 MBAdobe PDFView/Open
Sompijya_wi_ch3.pdf6.58 MBAdobe PDFView/Open
Sompijya_wi_ch4.pdf5.6 MBAdobe PDFView/Open
Sompijya_wi_ch5.pdf1.28 MBAdobe PDFView/Open
Sompijya_wi_ch6.pdf1.02 MBAdobe PDFView/Open
Sompijya_wi_back.pdf353.98 kBAdobe PDFView/Open


Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.