Please use this identifier to cite or link to this item: https://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/76306
Title: Predictive factors for invasive fungal rhinosinusitis in diabetic patients
Other Titles: การหาตัวแปรพยากรณ์โรค invasive fungal rhinosinusitis ในผู้ป่วยเบาหวาน
Authors: Thwe Phyo Kan Nyunt
Advisors: Kornkiat Snidvongs
Other author: Chulalongkorn University. Faculty of Medicine
Subjects: Diabetics
Diabetes -- Complications
Sinusitis
ผู้ป่วยเบาหวาน
เบาหวาน -- ภาวะแทรกซ้อน
โพรงจมูกอักเสบ
Issue Date: 2019
Publisher: Chulalongkorn University
Abstract: ภูมิหลัง ผู้ป่วยเบาหวานมีโอกาสที่จะเกิดโรคไซนัสอักสบจากเชื้อราชนิดรุกรานได้ง่ายกว่าผู้ป่วยปกติ ซึ่งอัตราการเสียชีวิตจากโรคนี้ในผู้ป่วยเบาหวานมีความหลากหลายค่อนข้างสูงในแต่ละการศึษา วัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาปัจจัยที่จะทำนายอัตราการรอดชีวิตของผู้ป่วยเบาหวานที่เกิดโรคไซนัสอักสบจากเชื้อราชนิดรุกราน วิธีการศึกษา การศึกษาแบบย้อนหลังนี้ได้จัดทำในโรงพยาบาลระดับตติยภูมิ 4 แห่ง ในประเทศไทย, มาเลเซีย และเมียนมาร์ โดยเก็บรวบรวมข้อมูลในผู้ป่วยเบาหวานที่เกิดโรคไซนัสอักสบจากเชื้อราชนิดรุกราน ตั้งแต่ปี ค.ศ. 2008 ถึง ค.ศ.2019 ผลที่ต้องการศึกษาคืออัตราการรอดชีวิต ปัจจัยทำนายที่นำมาวิเคราะห์ ได้แก่ อายุ, ระดับฮีโมโกลบินเอวันซีในเลือด, ภาวะเลือดเป็นกรดคีโต, ระดับเม็ดเลือดขาว, ภาวะน้ำตาลในเลือดสูง, ระยะเวลาที่เป็นโรคเบาหวาน, การใช้ยารักษาเบาหวานในปัจจุบัน, ระดับครีเอทีนีนในเลือด, และการกระจายของโรคไซนัสอักสบจากเชื้อราชนิดรุกรานเข้าไปที่ตา, คาเวอร์นัสไซนัส และโพรงสมอง ผลการศึกษา มีการเก็บรวบรวมข้อมูลในผู้ป่วยเบาหวานที่เกิดโรคไซนัสอักสบจากเชื้อราชนิดรุกราน 65 ราย (อายุเฉลี่ย 57.9±13.4 ปี, เพศชาย 60%) ผลพบว่า อัตราการเสียชีวิตอยู่ที่ 21.5 % โดยพบว่าการกระจายของโรคไซนัสอักสบจากเชื้อราชนิดรุกรานเข้าคาเวอร์นัส ไซนัส (hazard ratio 5.1, 95% CI [1.4–18.2], p=0.01) และโพรงสมอง (hazard ratio 3.4, 95% CI [1.1–11.3], p=0.05) เป็นปัจจัยทำนายอัตราการเสียชีวิต ส่วนการรักษาเบาหวานเป็นปัจจัยที่ลดความเสี่ยงของการเสียชีวิต (hazard ratio 0.2, 95% CI [0.1–0.9], p=0.03) ด้านอัตราการรอดชีวิตในระยะเวลา 6 เดือนในผู้ป่วยที่มีการกระจายของโรคไซนัสอักสบจากเชื้อราชนิดรุกรานเข้าไปและไม่เข้าไปที่คาเวอร์นัสไซนัสอยู่ที่ 51.4% และ 83.6% ตามลำดับ, (p <0.01), เข้าไปและไม่เข้าไปที่โพรงสมองอยู่ที่ 53.3% และ 88.9% ตามลำดับ, (p <0.01) และมีการใช้ยารักษาเบาหวานและไม่มีการใช้ยารักษาเบาหวานอยู่ที่ 82.3% และ 57.5% ตามลำดับ, (p =0.05) สรุป การกระจายของโรคไซนัสอักสบจากเชื้อราชนิดรุกรานเข้าไปที่คาเวอร์นัสไซนัสและโพรงสมองเพิ่มความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตในผู้ป่วยเบาหวาน การรอดชีวิตมีความสัมพันธ์กับการใช้ยารักษาเบาหวานในปัจจุบัน
Other Abstract: Background: Patients with diabetes mellitus (DM) are susceptible to invasive fungal rhinosinusitis (IFRS). The mortality rate of IFRS varies greatly among the patients with DM. Objective: To identify the prognostic factors for the overall survival of patients with DM and IFRS. Methods: A retrospective study was conducted in four tertiary hospitals in Thailand, Malaysia and Myanmar. Patients diagnosed with IFRS and DM from 2008 to 2019 were identified. The outcome was the overall survival. Variables analyzed for risk factors were age, HbA1C level, ketoacidosis, white blood cell count, hyperglycemia, duration of DM, current use of diabetic medications, serum creatinine level, and the extensions of IFRS to the orbit, the cavernous sinus and intracranial cavity. Results: Sixty-five diabetic patients with IFRS (age 57.9±13.4 years, male 60%) were identified. The mortality rate was 21.5%. The extensions of IFRS to the cavernous sinus (hazard ratio 5.1, 95% CI [1.4–18.2], p=0.01) and intracranial cavity (hazard ratio 3.4, 95% CI [1.1–11.3, p=0.05) predicted mortality. Current use of diabetic medications decreased the mortality risk (hazard ratio 0.2, 95% CI [0.1–0.9], p=0.03). The 6-month overall survival of the patients with and without the cavernous sinus extension were 51.4% and 83.6%, (p <0.01), with and without intracranial extension 53.3% and 88.9%, (p<0.01), and with and without current diabetic medications 82.3% and 57.5%, respectively (p=0.05). Conclusion: The extensions of IFRS to the cavernous sinus and intracranial cavity increased the risk of death in patients with DM. Survival was primarily related to current use of diabetic medications.
Description: Thesis (Ph.D.)--Chulalongkorn University, 2019
Degree Name: Doctor of Philosophy
Degree Level: Doctoral Degree
Degree Discipline: Clinical Sciences
URI: http://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/76306
URI: http://doi.org/10.58837/CHULA.THE.2019.151
metadata.dc.identifier.DOI: 10.58837/CHULA.THE.2019.151
Type: Thesis
Appears in Collections:Med - Theses

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
6074855130.pdf948.57 kBAdobe PDFView/Open


Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.