Please use this identifier to cite or link to this item: https://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/80222
Title: Sino-Burmese overland trade under dual-overlordship system in Qing dynasty with special focus on tea trade in Sipsong Panna
Other Titles: การความสัมพันธ์ทางการค้าทางบกระหว่างระหว่างชิโนและพม่าภายใต้ระบอบการปกครองแบบสองกษัตริย์ในสมัยราชวงศ์ชิง โดยเน้นที่การค้าชาในเขตฉานเป็นพิเศษ
Authors: Jingli Bai
Advisors: Sunait Chutintaranond
Other author: Chulalongkorn University. Graduate School
Issue Date: 2021
Publisher: Chulalongkorn University
Abstract: Overland trade had played a significant role in the interactions among China, Southeast Asia and South Asia for centuries. Though maritime trading raised in fifteenth century overwhelmingly attracts more attention from scholars, overland route was far from inconsiderable. Continental commercial intercourse essentially affected the demography, politics and also modernization process of Southern China and mainland Southeast Asia to a large range. During 17th to early 20th century, represented by several Shan states, Sino-Burmese frontier trade reached another peak. Enormous commodities carried by caravans shuttled on Tai leaders’ domains. By tributing to both China and Myanmar courts, Tai leaders received recognition from both sides, which helped them won unique position in cross-border trading. In this thesis, combining historical materials from China, British early exploders’ records and also local chronicle, author tried to elaborate how unusual local administrative system in this region led to Shan States’ distinguished commercial position in Sino-Burmese trade, also to explore the role of Tai leaders in local business activities. Differ from previous works, taking the tea trade as an interesting example, author as an indigenous people from Shan state Sipsong Panna, hold neither Sinocentric nor Eurocentric perspectives to analyze the development and evolution of trading in this region. Revealed by author’s studies, Dual-overlordship system adopted in these frontier Shan states brought this region an interesting economic ecology, which made it a welcomed “middle ground” for merchants. Along with the business journey of tea, we can learn how trade was conducted under Dual-overlordship system, from the ethnic planter to local highest ruler Chaofa, then Han or Muslim merchants, as well as Chinese and Burmese officials. Commodities come far from China and India like metal and spice were transported by traditional caravans or river transport, then re-distributed traded here; tea, cotton and other local merchandise were sent out by the same way. Culture and technology followed commerce met and merged here.
Other Abstract: การค้าทางบกมีบทบาทสำคัญในการปฏิสัมพันธ์ระหว่างจีน เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเอเชียใต้มานานหลายศตวรรษ แม้ว่าการค้าทางทะเลที่เกิดขึ้นในศตวรรษที่สิบห้าจะดึงดูดความสนใจจากนักวิชาการอย่างท่วมท้น แต่เส้นทางบนบกก็ยังห่างไกลจากสิ่งที่ไม่สามารถพิจารณาได้ การมีความสัมพันธ์เชิงพาณิชย์ภาคพื้นทวีปส่งผลกระทบอย่างมากต่อประชากร การเมือง และความทันสมัยของประเทศจีนตอนใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แผ่นดินใหญ่ในวงกว้าง ในช่วงศตวรรษที่ 17 ถึงต้นศตวรรษที่ 20 การค้าระหว่างชายแดนชิโน-พม่ามาถึงจุดสูงสุดอีกครั้งนำโดยตัวแทนจากรัฐฉานหลายรัฐ สินค้าขนาดใหญ่ที่บรรทุกโดยกองคาราวานถูกลำเลียงไปยังอาณาเขตของผู้นำรัฐฉาน จากการส่งส่วยไปยังศาลทั้งในจีนและเมียนมาร์ทำให้ผู้นำรัฐฉานได้รับการยอมรับจากทั้งสองฝ่าย ซึ่งช่วยให้พวกเขาได้รับตำแหน่งสำคัญในการค้าขายระหว่างดินแดน ในวิทยานิพนธ์นี้ผู้เขียนได้พยายามอธิบายรายละเอียดว่าระบอบการปกครองท้องถิ่นที่ไม่ปกติในภูมิภาคนี้ทำให้สถานะทางการค้าที่โดดเด่นของรัฐฉานในการค้าชิโน-พม่าเป็นอย่างไร รวมถึงบทบาทของผู้นำรัฐฉานในกิจกรรมทางธุรกิจในท้องถิ่น นักเขียนในฐานะชนพื้นเมืองจากรัฐฉาน สิบสองปันนา เห็นว่าการค้าชาเป็นตัวอย่างที่น่าสนใจซึ่งต่างจากงานเขียนก่อนหน้านี้ โดยถือเอาการค้าชาเป็นตัวอย่างที่น่าสนใจ โดยไม่ได้ถือเอาทั้งมุมมองของชิโนเซนทริคและยูโรเซนทริคในการวิเคราะห์การพัฒนาและวิวัฒนาการของการค้าขายในภูมิภาคนี้ โดยจากการศึกษาค้นคว้าของผู้เขียนจะเห็นว่า ระบอบการปกครองแบบสองกษัตริย์ที่นำมาใช้บริเวณชายแดนรัฐฉานทำให้ภูมิภาคนี้มีระบบนิเวศทางเศรษฐกิจที่น่าสนใจ ซึ่งทำให้เป็น "พื้นที่กลาง" ที่ได้รับการตอบรับที่ดีจากพ่อค้า นอกจากเส้นทางธุรกิจของชาแล้ว เรายังสามารถเรียนรู้วิธีดำเนินการค้าขายภายใต้ระบอบการปกครองแบบสองกษัตริย์ตั้งแต่ชาวไร่ชาวนาชนกลุ่มน้อยไปจนถึงเจ้าฟ้าผู้มียศสูงสุดในท้องถิ่น จนถึงชาวฮั่นหรือพ่อค้าชาวมุสลิม ตลอดจนเจ้าหน้าที่ชาวจีนและพม่า สินค้าโภคภัณฑ์ถูกลำเลียงมาไกลจากประเทศจีนและอินเดีย เช่น โลหะและเครื่องเทศซึ่งถูกขนส่งโดยคาราวานแบบดั้งเดิมหรือการขนส่งทางน้ำ จากนั้นจึงนำมาขายอีกครั้ง ชา ฝ้าย และสินค้าพื้นเมืองอื่นๆ ถูกส่งออกไปด้วยวิธีเดียวกัน วัฒนธรรมและเทคโนโลยีเป็นผลพวงจากการค้าขายและถูฏรวมเข้าไว้ด้วยกัน
Description: Thesis (M.A.)--Chulalongkorn University, 2021
Degree Name: Master of Arts
Degree Level: Master's Degree
Degree Discipline: Southeast Asian Studies
URI: http://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/80222
URI: http://doi.org/10.58837/CHULA.THE.2021.363
metadata.dc.identifier.DOI: 10.58837/CHULA.THE.2021.363
Type: Thesis
Appears in Collections:Grad - Theses

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
6288055220.pdf1.44 MBAdobe PDFView/Open


Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.