Abstract:
การวิเคราะห์อภิมานครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาคุณลักษณะของงานวิจัยที่เกี่ยวกับการปฏิบัติการพยาบาลของผู้ดูแลในครอบครัวของผู้ป่วยบาดเจ็บสมองและผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง 2) เปรียบเทียบผลของการปฏิบัติการพยาบาลต่อผลลัพธ์ด้านสุขภาพของผู้ดูแลในครอบครัวของผู้ป่วยบาดเจ็บสมองและผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง 3) ศึกษาคุณลักษณะของงานวิจัยที่มีผลต่อความแปรปรวนของค่าขนาดอิทธิพลของการปฏิบัติการพยาบาลต่อผลลัพธ์ด้านสุขภาพของผู้ดูแลในครอบครัวของผู้ป่วยบาดเจ็บสมองและผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง โดยศึกษาจากวิทยานิพนธ์และรายงานการวิจัยในประเทศไทยระหว่างปี พ.ศ. 2528 – 2550 จำนวน 31 เรื่อง เครื่องมือวิจัยเป็นแบบสรุปคุณลักษณะของงานวิจัยและแบบประเมินคุณภาพงานวิจัย ได้ผ่านการตรวจสอบความตรงตามเนื้อหาโดยผู้ทรงคุณวุฒิ 5 ท่าน ได้ค่าดัชนีความตรงตามเนื้อหา เท่ากับ 0.82 หาความเที่ยงโดยวิธีผู้ประเมินร่วมกันระหว่างผู้วิจัยและอาจารย์ที่ปรึกษา ได้ค่าความเที่ยงเท่ากับ 0.86 นำข้อมูลไปวิเคราะห์ตามวิธีของ Glass, McGaw, & Smith (1981) ได้ค่าขนาดอิทธิพลจำนวน 77 ค่า ผลการวิเคราะห์งานวิจัยสรุปได้ ดังนี้ 1. งานวิจัยที่นำมาวิเคราะห์ ส่วนใหญ่เป็นวิทยานิพนธ์ระดับมหาบัณฑิต (83.87 %) จากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่และมหาวิทยาลัยมหิดล จำนวนเท่ากัน (22.58 %) จากคณะพยาบาลศาสตร์ (70.97 %) คุณภาพงานวิจัยโดยรวมอยู่ในระดับดีมาก (61.30 %) พบว่า การปฏิบัติการพยาบาลด้านการรู้และความคิดถูกนำมาศึกษามากที่สุด (48.39 %) และด้านสังคมถูกนำมาศึกษาน้อยที่สุด (16.13%) ส่วนผลลัพธ์ทางสุขภาพด้านอื่น ๆ ถูกนำมาศึกษามากที่สุด (43.14 %) และด้านอาการถูกนำมาศึกษาน้อยที่สุด (1.96 %) 2. ผลการเปรียบเทียบค่าขนาดอิทธิพล พบว่า ผลลัพธ์ด้านสุขภาพโดยรวมมีขนาดใหญ่ (d = 2.26) โดยด้านพฤติกรรมให้ค่าขนาดอิทธิพลสูงที่สุด (d = 2.79) และด้านจิตใจให้ค่าขนาดอิทธิพลต่ำที่สุด (d = 1.71) ส่วนการปฏิบัติการพยาบาลแบบผสมผสานให้ค่าขนาดอิทธิพลสูงที่สุด (d = 2.53) และการปฏิบัติการพยาบาลด้านสังคมมีค่าขนาดอิทธิพลต่ำที่สุด (d = 1.52) 3. สถานที่เก็บข้อมูลและการระบุกรอบแนวคิดมีผลต่อความแปรปรวนของค่าขนาดอิทธิพล สามารถพยากรณ์ความแปรปรวนของค่าขนาดอิทธิพล ได้ร้อยละ 30.00