Abstract:
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ ศึกษาสภาพ ปัญหา และความต้องการ ตามการรับรู้ของนักศึกษา ครู ผู้สอน ผู้บริหาร และผู้นำชุมชน ในด้านหลักสูตร ด้านผู้สอน ด้านกิจกรรมการเรียนการสอน ด้านสื่อ วัสดุอุปกรณ์ ด้านสถานที่ใช้สอน และฝึกงาน ด้านการวัด และประเมินผล ตามการรับรู้ของนักศึกษา ครู ผู้สอน ผู้บริหารและผู้นำชุมชน เพื่อเปรียบเทียบ สภาพ ปัญหา และความต้องการในแต่ละด้านตามสถานภาพของกลุ่มตัวอย่าง และ เปรียบเทียบ สภาพ ปัญหา และความต้องการในแต่ละด้านของนักศึกษา ตาม เพศ อายุ และประเภทวิชาที่เข้ารับการฝึกอบรม เพื่อนำเสนอแนวทางการจัดการฝึกอบรมหลักสูตรวิชาชีพระยะสั้นของวิทยาลัยชุมชนในกรุงเทพมหานคร เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แบบสอบถามแบบประเมิน ค่าแบบลิเคิร์ต (Likert’s Rating Scale) มีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.95 และแบบสัมภาษณ์ ประชากรที่ใช้วิจัยในการทำแบบสอบถามได้แก่ นักศึกษา ที่กำลังศึกษาในภาคการศึกษาที่ 1 ปีการศึกษา 2553 จำนวน 3,388 คน ครู ผู้สอน จำนวน 163 คน ผู้บริหารจำนวน 10 คน และผู้นำชุมชน ในเขตที่ตั้งหน่วยจัดการศึกษา จำนวน 10 แห่ง จำนวน 357 คน กลุ่มตัวอย่างที่ใช้วิจัยในการทำแบบสอบถาม ได้แก่ นักศึกษา ภาคการศึกษาที่ 1 ปีการศึกษา 2553 จำนวน 357 คน โดยสุ่มตัวอย่างจากประชากรที่มีจำนวนแน่นอน โดยวิธีของ Taro Yamana แล้วกระจายสัดส่วน ครู ผู้สอน จำนวน 115 คน โดยสุ่มตัวอย่างจากประชากรที่มีจำนวนแน่นอน โดยวิธีของ Taro Yamana แล้วกระจายสัดส่วน ผู้บริหาร จำนวน 10 คน โดยใช้ประชากรทั้งหมดเป็นกลุ่มตัวอย่าง และผู้นำชุมชนในเขตที่ตั้งหน่วยจัดการศึกษา จำนวน 10 แห่ง จำนวน 188 คน โดยสุ่มตัวอย่างจากประชากรที่มีจำนวนแน่นอน โดยวิธีของ Taro Yamana แล้วกระจายสัดส่วน สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ , SD., t-test, ANOVA และ Scheff’s test กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการสัมภาษณ์ ได้แก่ ครู ผู้สอน จำนวน 10 คน โดยใช้การสุ่มตัวอย่างแบบหิมะ ผู้บริหาร จำนวน 10 คน โดยใช้ประชากรทั้งหมดเป็นกลุ่มตัวอย่าง และผู้นำชุมชนในเขตที่ตั้งหน่วยจัดการศึกษา จำนวน 10 แห่ง จำนวน 10 คน โดยใช้การสุ่มตัวอย่างแบบหิมะ
ผลการวิจัยพบว่า สภาพทำการจัดการเรียนหลักสูตรวิชาชีพระยะสั้น โดยรวมอยู่ที่ระดับเป็นจริงมาก ปัญหาด้านครู ผู้สอน ด้านกิจกรรมการเรียนการสอน และด้านสถานที่ใช้สอน และฝึกงาน โดยรวมอยู่ที่ระดับปัญหาน้อย ปัญหาด้านการวัด และประเมินผล โดยรวมอยู่ที่ระดับปัญหาปานกลาง ความต้องการด้านหลักสูตร และด้านการวัดและประเมินผลโดยรวมอยู่ที่ระดับความต้องการปานกลาง ความต้องการด้านครู ผู้สอน ด้านกิจกรรมการเรียนการสอนด้านสื่อการเรียนการสอน และด้านสถานที่ใช้สอนและฝึกงานโดยรวมอยู่ที่ระดับความต้องการน้อย การเปรียบเทียบการรับรู้ของจำแนกตามสถานภาพของกลุ่มตัวอย่าง มีการรับรู้ไม่แตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 โดยผู้นำชุมชน มีการรับรู้น้อยกว่ากลุ่มตัวอย่างกลุ่มอื่นๆ ในด้านหลักสูตร การเปรียบเทียบการรับรู้ของกลุ่มตัวอย่างนักศึกษา จำแนกตาม เพศ อายุ และประเภทวิชาที่เข้ารับการฝึกอบรม นักศึกษาที่มีเพศแตกต่างกัน มีการรับรู้ไม่แตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 นักศึกษาที่มี อายุแตกต่างกัน มีการรับรู้แตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 โดย นักศึกษา กลุ่ม อายุ 55 ปี ขึ้นไป มีการรับรู้น้อยกว่านักศึกษากลุ่มอายุอื่นๆ ในด้านกิจกรรมการเรียนการสอน และด้านสื่อ วัสดุ อุปกรณ์ นักศึกษาที่มีประเภทวิชาแตกต่างกัน มีการรับรู้แตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 โดยนักศึกษากลุ่มประเภทวิชาอุตสาหกรรมกรรม มีการรับรู้น้อยกว่านักศึกษากลุ่มประเภทวิชาอื่นๆ ในด้านกิจกรรมการเรียนการสอน ด้านสื่อ วัสดุ อุปกรณ์ และด้านสถานที่ใช้สอนและฝึกงาน
แนวทางในการจัดการฝึกอบรม ด้านหลักสูตร ควรสำรวจความต้องการของนักศึกษา และร่วมมือกับท้องถิ่น และแหล่งอาชีพ สถานประกอบการณ์ ปรับปรุงหลักสูตร สอดคล้องกับความต้องการของท้องถิ่น ให้ทันสมัยอยู่เสมอ ด้านครู ผู้สอน ควรสอนโดยเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ อุทิศตนเป็นแบบอย่างแก่นักศึกษา เอาใจใส่ทุ่มเทในการสอน พัฒนาศักยภาพครูผู้สอนโดย ส่งเสริมศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้น การอบรมความรู้ เป็นต้น ด้านกิจกรรมการเรียนการสอน ควรจัดกิจกรรมที่เน้นการปฏิบัติ 80% ใช้เทคนิคการสาธิต มีประสบการณ์ตรงที่หลากหลาย ส่งเสริมกิจกรรมในการประกอบอาชีพ เช่น ทัศนศึกษา ฝึกงาน ออกหน่วยบริการ กิจกรรมสัมพันธ์ชุมชน การเชิญวิทยากรผู้มีความรู้ในท้องถิ่น หรือแหล่งอาชีพ มาให้ความรู้ ฯลฯ ด้านสื่อ วัสดุอุปกรณ์ เน้นการใช้สื่อของจริง หุ่นจำลอง มีการบำรุงรักษาสื่อ วัสดุอุปกรณ์ และนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ ควรมีสื่อ วัสดุอุปกรณ์ ที่ทันสมัยทันกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ มีจำนวนเพียงพอ โดยร่วมมือกับสถานประกอบการ และใช้ทรัพยากรในชุมชน มาทำเป็นสื่อ วัสดุอุปกรณ์จัดหาแหล่งเรียนรู้ เช่น ห้องสมุด ฯลฯ ด้านสถานที่ใช้สอนและฝึกงาน ควรปรับปรุงบริเวณรอบโรงเรียนให้สะอาดเรียบร้อย ถูกสุขอนามัย ปลูกต้นไม้ให้สวยงาม อาคารเรียน ควรจัดให้กว้างขวาง เป็นระเบียบ จัดการเรื่อง การระบายอากาศ แสงสว่าง เสียงรบกวน โรงฝึกงานควรทำให้มี สื่อ วัสดุอุปกรณ์ และสามารถปฏิบัติงาน เหมือนกับสถานปรกอบการณ์ ด้านการวัดและประเมินผล มีการวัดผลการเรียนโดยเน้นทักษะการปฏิบัติงานในทุกๆบทเรียนย่อย มีการสอบข้อเขียนปลายภาคการศึกษา โดยควรจัดทำข้อสอบมาตรฐาน ควรใช้วิธีที่หลากหลาย และติดตามผลอย่างสม่ำเสมอ