Abstract:
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อพัฒนาวิธีการกำหนดคะแนนจุดตัดสำหรับการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน วิชาคณิตศาสตร์และวิชาวิทยาศาสตร์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 2) เพื่อกำหนดคะแนนจุดตัดสำหรับการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐานวิชาคณิตศาสตร์ และวิชาวิทยาศาสตร์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ด้วยวิธีแองกอฟแบบใช่/ไม่ใช่ วิธีบุ๊คมาร์ค และวิธีเอบีซี 3) เพื่อตรวจสอบคุณภาพของคะแนนจุดตัด และ 4) เพื่อวิเคราะห์จำนวนผู้เชี่ยวชาญและจำนวนกลุ่มผู้เชี่ยวชาญที่มีความเหมาะสม เมื่อกำหนดคะแนนจุดตัดโดยวิธีแองกอฟแบบใช่/ไม่ใช่ วิธีบุ๊คมาร์ค และวิธีเอบีซี กลุ่มตัวอย่างประกอบด้วยครูผู้สอนวิชาคณิตศาสตร์จำนวน 27 คน และเป็นครูผู้สอนวิชาฟิสิกส์ 10 คน วิชาเคมี 10 คน และวิชาชีววิทยา 10 คน ข้อสอบที่ใช้ในการกำหนดคะแนนจุดตัดเป็นข้อสอบสำหรับการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน ช่วงชั้นที่ 4 (มัธยมศึกษาปีที่ 6) ปีการศึกษา 2553 วิชาคณิตศาสตร์จำนวน 40 ข้อ คะแนนเต็ม 100 คะแนน และวิชาวิทยาศาสตร์ จำนวน 90 ข้อ คะแนนเต็ม 100 คะแนน
ผลการวิจัยพบว่า 1. วิธีกำหนดคะแนนจุดตัดที่พัฒนาขึ้น คือวิธีเอบีซี เป็นวิธีที่ให้ผู้เชี่ยวชาญกำหนดคะแนนจุดตัดจากคู่มือเรียงข้อสอบรายสาระการเรียนรู้ และเสนอสารสนเทศเกี่ยวกับผลการวิเคราะห์กลุ่มประกอบการกำหนดคะแนนจุดตัด เป้าหมายในการพัฒนาวิธีนี้เพื่อลดความซับซ้อนของกระบวนการคิดของผู้เชี่ยวชาญ และเพื่อให้ได้วิธีที่ง่ายต่อการดำเนินการ อันจะนำไปสู่ดำเนินการที่มีประสิทธิภาพ 2. คะแนนจุดตัดวิชาคณิตศาสตร์ระดับ 1/2 ระดับ 2/3 และระดับ 3/4 ที่กำหนดด้วยวิธีแองกอฟแบบใช่/ไม่ใช่ มีค่าเท่ากับ 15.11, 42.63 และ 81.26 ตามลำดับ วิธีบุ๊คมาร์ค มีค่า 39.22, 55.37 และ 70.26 ตามลำดับ และวิธีเอบีซี มีค่า 6.34, 50.74 และ 80.37 ตามลำดับ คะแนนจุดตัดวิชาวิทยาศาสตร์ระดับ 1/2 ระดับ 2/3 และระดับ 3/4 ที่กำหนดด้วยวิธีแองกอฟแบบใช่/ไม่ใช่ มีค่าเท่ากับ 44.17, 72.44 และ88.52 ตามลำดับ วิธีบุ๊คมาร์ค มีค่า 23.52, 53.48 และ 76.93 ตามลำดับ และวิธีเอบีซี มีค่า 21.96, 64.85 และ 85.67 ตามลำดับ 3. ผลวิเคราะห์คุณภาพด้านความตรง พบว่า การกำหนดคะแนนจุดตัดด้วยวิธีแองกอฟแบบใช่/ไม่ใช่ วิธีบุ๊คมาร์ค และวิธีเอบีมีความตรงของปัจจัยนำเข้าโดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก สำหรับหลักการที่ผู้เชี่ยวชาญใช้ในการพิจารณาเพื่อกำหนดคะแนนจุดตัดคือ พิจารณาระดับพฤติกรรมด้านพุทธิพิสัยที่ข้อสอบต้องการวัด พิจารณารูปแบบของข้อสอบ และขั้นตอนของการได้มาซึ่งคำตอบที่ถูกต้อง คะแนนจุดตัดที่กำหนดด้วยวิธีแองกอฟแบบใช่/ไม่ใช่ วิธีบุ๊คมาร์ค และวิธีเอบีซี มีความสอดคล้องกันน้อย คะแนนจุดตัดที่กำหนดด้วยวิธีแองกอฟแบบใช่/ไม่ใช่ วิธีบุ๊คมาร์ค และวิธีเอบีมีความถูกต้องของการกำหนดกลุ่มสูง มีความคลาดเคลื่อนของการกำหนดกลุ่มแบบบวก และความคลาดเคลื่อนของการกำหนดกลุ่มแบบลบต่ำ สำหรับผลวิเคราะห์คุณภาพด้านความเที่ยง พบว่า วิธีแองกอฟแบบใช่/ไม่ใช่มีความเที่ยงภายในผู้เชี่ยวชาญ 0.36 ถึง 0.97 วิธีบุ๊คมาร์คมีความเที่ยงภายในผู้เชี่ยวชาญ 0.91 ถึง 0.94 วิธีเอบีซีมีความเที่ยงภายในผู้เชี่ยวชาญ 0.33 ถึง 0.90 วิธีแองกอฟแบบใช่/ไม่ใช่มีความเที่ยงระหว่างผู้เชี่ยวชาญ 0.32 ถึง 0.93 วิธีบุ๊คมาร์คมีความเที่ยงระหว่างผู้เชี่ยวชาญ 0.19 ถึง 0.79 วิธีเอบีซีมีความเที่ยงระหว่างผู้เชี่ยวชาญ 0.47 ถึง 0.87 4. จำนวนผู้เชี่ยวชาญที่เหมาะสมสำหรับการกำหนดคะแนนจุดตัดด้วยวิธีแองกอฟแบบใช่/ไม่ใช่ ควรมีจำนวน 36 คนขึ้นไป โดยแบ่งเป็น 6 กลุ่ม กลุ่มละ 6 คน วิธีบุ๊คมาร์คควรมีจำนวน 49 คนขึ้นไป โดยแบ่งเป็น 7 กลุ่ม กลุ่มละ 7 คน สำหรับวิธีเอบีซีควรมีจำนวน 25 คน ขึ้นไป โดยแบ่งเป็น 5 กลุ่ม กลุ่มละ 5 คน