DSpace Repository

อิทธิพลของรูปแบบความผูกพันต่อความสมดุลระหว่างชีวิตและการทำงาน

Show simple item record

dc.contributor.advisor ณัฏฐารีย์ ศิริวิวัฒน์
dc.contributor.author รัตนพรรณ ส่งเสริมสวัสดิ์
dc.contributor.author สิริกาญจน์ จิตลดาพร
dc.contributor.author อารดี เจริญยิ่งวัฒนา
dc.contributor.other จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. คณะจิตวิทยา
dc.date.accessioned 2015-07-28T09:03:31Z
dc.date.available 2015-07-28T09:03:31Z
dc.date.issued 2556
dc.identifier.uri http://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/44172
dc.description โครงงานทางจิตวิทยานี้เป็นส่วนหนึ่งของการศึกษาตามหลักสูตรปริญญาวิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาจิตวิทยา คณะจิตวิทยา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ปีการศึกษา 2556 en_US
dc.description A senior project submitted in partial fulfillment of the requirements for the Degree of Bachelor of Science in Psychology, Faculty of Psychology, Chulalongkorn University, Academic year 2013 en_US
dc.description.abstract การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาอิทธิพลของรูปแบบความผูกพัน (attachment styles) ที่มีต่อความสมดุลระหว่างชีวิตและการทำงาน (work-life balance) ของบุคคลทั่วไปไม่จำกัดเพศและอายุ ที่ทำงานอยู่ในปัจจุบัน ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล โดยกลุ่มตัวอย่างจำนวน 201 คน ตอบแบบสอบถามที่ประเมินรูปแบบความผูกพัน และความสมดุลระหว่างชีวิตและการทำงาน ตามลำดับ แล้วทำการวิเคราะห์ผลทางสถิติ ผลการวิเคราะห์พบว่า 1. ความวิตกกังวลในความผูกพัน (β1 = .16, p < .05) สามารถทำนายการรบกวนจากชีวิตการทำงานไปสู่ชีวิตนอกเหนือการทำงานได้อย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ .05 โดยสามารถอธิบายความแปรปรวนของการรบกวนจากชีวิตการทำงานไปสู่ชีวิตนอกเหนือการทำงานได้ร้อยละ 4 (R 2 = .04, p < .05) 2. ความวิตกกังวลในความผูกพัน (β2 = .34, p < .001) สามารถทำนายการรบกวนจากชีวิตนอกเหนือการทำงานไปสู่ชีวิตการทำงานได้อย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ .001 โดยสามารถอธิบายความแปรปรวนของการรบกวนจากชีวิตนอกเหนือการทำงานไปสู่ชีวิตการทำงานได้ร้อยละ 9 (R 2 = .09, p < .001) 3. ความวิตกกังวลในความผูกพัน (β3 = .17, p < .05) และจำนวนชั่วโมงการทำงาน (β4 = .29, p < .001) สามารถร่วมกันทำนายการรบกวนจากชีวิตการทำงานไปสู่ชีวิตนอกเหนือการทำงานได้ อย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ .001 โดยสามารถอธิบายความแปรปรวนของการรบกวนจากชีวิตการทำงานไปสู่ชีวิตนอกเหนือการทำงานได้ร้อยละ 12 (R 2 = .12, p < .001) en_US
dc.description.abstractalternative The purpose of this research was to study the effects of both anxious and avoidant attachment styles on work-nonwork interference and work-nonwork enhancement. Participants were two hundred and one who was currently working and completed a set of questionnaires assessing their attachment styles and work-life balance respectively. Results indicate that 1. Anxious attachment style (β1 = .16, p < .05) significantly predicted work interfere with life and explained 4% of the variation in work interfere with life (R 2 = .04, p < .05). 2. Anxious attachment style (β2 = .34, p < .001) significantly predicted life interfere with work and explained 9% of the variation in life interfere with work (R 2 = .09, p < .001). 3. Anxious attachment style (β3 = .17, p < .05) and work hours (β4 = .29, p < .001) significantly predicted work interfere with life and explained 12% of the variation in work interfere with life (R 2 = .12, p < .001). en_US
dc.language.iso th en_US
dc.publisher จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย en_US
dc.rights จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย en_US
dc.subject การทำงาน -- แง่จิตวิทยา en_US
dc.subject ความผูกพัน en_US
dc.subject ความวิตกกังวล en_US
dc.subject ความผูกพันต่อองค์การ en_US
dc.subject Work|xPsychological aspects en_US
dc.subject Commitment (Psychology) en_US
dc.subject Anxiety en_US
dc.subject Organizational commitment en_US
dc.title อิทธิพลของรูปแบบความผูกพันต่อความสมดุลระหว่างชีวิตและการทำงาน en_US
dc.title.alternative Effects of attachment styles on work-life balance en_US
dc.type Senior Project en_US
dc.email.advisor ไม่มีข้อมูล


Files in this item

This item appears in the following Collection(s)

Show simple item record