Abstract:
วิทยานิพนธ์นี้มีจุดประสงค์ในการศึกษาเปรียบเทียบการเลือกตั้งส.ส.ภายใต้ระบบบัญชีรายชื่อปิดของไทยกับระบบบัญชีรายชื่อเปิดของอินโดนีเซียใน 2 ประเด็นหลักคือ เรื่องเหตุผลซึ่งส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงระบบบัญชีรายชื่อ และเรื่องอำนาจของพรรคการเมืองในการควบคุมและจัดลำดับของผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ในบัญชีรายชื่อของพรรค รวมไปถึงเรื่องของยุทธศาสตร์ในการแข่งขันหาเสียงเลือกตั้ง จากผลการศึกษาพบว่า เหตุผลซึ่งส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงระบบเลือกตั้งของทั้ง 2 ประเทศมีความแตกต่างกัน กล่าวคือ ประเทศไทยได้นำเอาระบบบัญชีรายชื่อปิดเข้ามาใช้ร่วมในการเลือกตั้งส.ส.ด้วย เพราะคาดหวังว่าเป็นระบบเลือกตั้งที่จะสามารถเสริมสร้างความเข้มแข็งให้แก่พรรคการเมือง และมีส่วนช่วยละลายการซื้อเสียงได้ระดับหนึ่ง ในขณะที่ประเทศอินโดนีเซียได้เปลี่ยนมาใช้ระบบเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อเปิด เพราะเห็นว่า ระบบบัญชีรายชื่อเปิดมีศักยภาพที่จะช่วยส่งเสริมความรับผิดชอบของส.ส.ต่อประชาชนผ่านการลงคะแนนเสียงจากบัตรเลือกตั้งได้ ประเด็นต่อมา ในการจัดทำบัญชีรายชื่อของพรรคการเมืองทั้งของไทยและอินโดนีเซียต่างก็ยังคงรวมศูนย์อำนาจในการตัดสินใจเพื่อจัดทำและเรียงลำดับผู้สมัครในบัญชีรายชื่ออยู่ที่หัวหน้าและแกนนำพรรคอยู่ แต่ว่าหลักเกณฑ์ที่ใช้ในการคำนึงเพื่อจัดทำและเรียงลำดับในบัญชีรายชื่อจะมีความแตกต่างกัน เพราะด้วยรูปแบบของระบบบัญชีรายชื่อปิดที่ประชาชนไม่สามารถเลือกผู้สมัครในบัญชีรายชื่อได้โดยตรง ทำให้พรรคการเมืองของไทยไม่จำเป็นต้องคำนึงถึงเรื่องความนิยม และศักยภาพในการชนะการเลือกตั้งของผู้สมัครมากนักในการจัดทำและเรียงลำดับในบัญชีรายชื่อ และส่งผลต่อยุทธศาสตร์การหาเสียงเลือกตั้งให้เป็นการหาเสียงในระดับพรรคการเมือง ขณะที่ภายใต้ระบบบัญชีรายชื่อเปิดของอินโดนีเซีย ประชาชนสามารถลงคะแนนเสียงเลือกผู้สมัครในบัญชีรายชื่อได้โดยตรง ทำให้พรรคต้องคำนึงเรื่องศักยภาพและโอกาสในการชนะเลือกตั้งของผู้สมัครในการจัดทำและเรียงลำดับในบัญชีรายชื่อ และยังส่งผลต่อยุทธศาสตร์การหาเสียงเลือกตั้งที่เน้นไปที่การหาเสียงของทางผู้สมัครเอง