Abstract:
การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ 2 ประการ คือ 1) เพื่อพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนการเขียนโดยใช้ทฤษฎีกระบวนการเขียนเชิงปัญญาร่วมกับกลยุทธ์พุทธิปัญญาและอภิปัญญาเพื่อเสริมสร้างความสามารถในการเขียนรายงานการวิจัยของนักเรียนมัธยมศึกษาตอนต้น 2) เพื่อประเมินประสิทธิภาพของรูปแบบการเรียนการสอนที่พัฒนาขึ้น โดยพิจารณาจากการเปรียบเทียบความสามารถในการเขียนรายงานการวิจัยของนักเรียน ที่เป็นกลุ่มตัวอย่างในการวิจัยหลังการทดลอง ระหว่างกลุ่มทดลองที่ได้รับการจัดการเรียนการสอนโดยใช้รูปแบบการเรียนการสอนที่พัฒนาขึ้น และกลุ่มควบคุมที่ได้รับการจัดการเรียนการสอนโดยใช้วิธีการสอนปกติ การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยและพัฒนา กลุ่มตัวอย่างในการวิจัยเป็นนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ฝ่ายมัธยม ปีการศึกษา 2558 จำนวน 70 คน แบ่งเป็นกลุ่มทดลองจำนวน 36 คน และกลุ่มควบคุมจำนวน 34 คน ใช้เวลาในการทดลอง 19 คาบเรียน เก็บรวบรวมข้อมูลเชิงปริมาณ โดยใช้เครื่องมือที่ประกอบด้วยแบบประเมินความสามารถในการเขียนรายงานการวิจัย มีลักษณะเป็นมาตรประมาณค่าเกณฑ์การประเมินระดับความสามารถในการเขียนรายงานการวิจัย และเก็บรวบรวมข้อมูลเชิงคุณภาพ โดยใช้แบบสังเกตพฤติกรรมการเขียนรายงานการวิจัยและแบบสัมภาษณ์ วิเคราะห์ข้อมูลโดยการแจกแจงค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และทดสอบความแตกต่างระหว่างค่าเฉลี่ยความสามารถในการเขียนรายงานการวิจัย ระหว่างกลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุมด้วยสถิติทดสอบที และวิเคราะห์เนื้อหาของข้อมูลจากการสังเกตและสัมภาษณ์ ผลการวิจัยสรุปได้ดังนี้ 1. รูปแบบการเรียนการสอนการเขียนที่พัฒนาขึ้นตั้งอยู่บนพื้นฐานของทฤษฎีกระบวนการเขียนเชิงปัญญาแนวคิดกลยุทธ์พุทธิปัญญา และแนวคิดกลยุทธ์อภิปัญญา มีองค์ประกอบ 4 ประการ คือ 1) หลักการของรูปแบบ มี 5 ประการ ได้แก่ การจัดปัจจัยที่ส่งเสริมการเขียน การจัดเตรียมข้อมูลในหน่วยความทรงจำระยะยาว การเสริมสร้างประสิทธิภาพของกิจกรรมทางปัญญาด้วยการใช้กลยุทธ์ทางปัญญา การเป็นตัวแบบในการดำเนินกิจกรรมทางปัญญา และการควบคุมและประเมินการทำงานของกิจกรรมทางปัญญา 2) วัตถุประสงค์ของรูปแบบ คือ เพื่อเสริมสร้างความสามารถในการเขียนรายงานการวิจัย 3) ขั้นตอนของการจัดการเรียนการสอน มีจำนวน 4 ขั้น คือ ขั้นจูงใจและใช้กลยุทธ์เตรียมการเขียน ขั้นใช้กลยุทธ์ร่างความคิด ขั้นปฏิบัติการเขียน ขยายและทบทวนความคิด และขั้นไตร่ตรองกระบวนการเขียนรายงานการวิจัย และ 4) การประเมินผลการเรียนการสอน เป็นการประเมินหลังการเรียนการสอนโดยการประเมินระดับความสามารถในการเขียนงานการวิจัยจากการประเมินผลงานรายงานการวิจัยที่นักเรียนจัดทำขึ้นด้วยการให้แบบประเมินและเกณฑ์การประเมินระดับความสามารถในการเขียนรายงานการวิจัย 2. ประสิทธิภาพของรูปแบบการเรียนการสอนที่พัฒนาขึ้นพบว่า หลังการทดลอง คะแนนเฉลี่ยความสามารถในการเขียนรายงานการวิจัยในภาพรวมและรายด้านทั้ง 6 ด้าน ได้แก่ ด้านการนำเสนอเนื้อหา ด้านการจัดการความคิด ด้านการค้นคว้าและสืบค้นข้อมูล ด้านการเรียบเรียงประโยคและย่อหน้า ด้านการเลือกใช้คำและระดับภาษา และด้านการจัดรูปแบบของรูปเล่ม ของนักเรียนที่เป็นกลุ่มทดลองสูงกว่ากลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05