Abstract:
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาสภาพและปัญหาเกี่ยวกับการดำเนินงานประกันคุณภาพภายในด้านการเตรียมการ การดำเนินงาน และการรายงานของสถานรับเลี้ยงเด็ก 2) นำเสนอแนวทางสำหรับการประกันคุณภาพภายในของสถานรับเลี้ยงเด็ก กลุ่มตัวอย่าง คือ สถานรับเลี้ยงเด็กที่มีเด็กวัยทารกและวัยเตาะแตะสังกัดกรมกิจการเด็กและเยาวชน กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จำนวนทั้งหมด 214 แห่ง และกำหนดผู้ให้ข้อมูล ได้แก่ ผู้บริหาร จำนวน 214 คน ผู้ดูแลเด็กวัยทารก จำนวน 214 คนและผู้ดูแลเด็กวัยเตาะแตะ จำนวน 214 คน รวมมีผู้ให้ข้อมูลทั้งสิ้น 642 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แบบสอบถามผู้บริหาร ผู้ดูแลเด็กวัยทารก และผู้ดูแลเด็กวัยเตาะแตะเกี่ยวกับการดำเนินงานประกันคุณภาพภายในของสถานรับเลี้ยงเด็ก และแนวคำถามสำหรับการสนทนากลุ่มผู้เชี่ยวชาญ วิเคราะห์ข้อมูลโดยการแจกแจงความถี่และหาค่าร้อยละ ผลการวิจัย มีดังนี้ 1. สภาพและปัญหาการดำเนินงานประกันคุณภาพภายในของสถานรับเลี้ยงเด็ก พบว่า 1) ด้านการเตรียมการ สถานรับเลี้ยงเด็กส่วนใหญ่ ไม่มีการกำหนดบทบาทหน้าที่ของบุคลากรเพื่อทำหน้าที่ดำเนินงานประกันคุณภาพภายใน และไม่มีการจัดทำแผนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้มากที่สุด โดยปัญหาที่พบ คือ บุคลากรขาดความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับการประกันคุณภาพภายใน และการจัดทำแผนมากที่สุด 2) ด้านการดำเนินการ สถานรับเลี้ยงเด็กส่วนใหญ่ไม่มีการดำเนินงานตามแผนการจัดประสบการณ์ ไม่มีการตรวจสอบผลคุณภาพการบริหารจัดการของสถานรับเลี้ยงเด็ก ไม่มีการกำหนดแนวทางและไม่มีการปรับปรุงการปฏิบัติงานและพัฒนาคุณภาพการศึกษามากที่สุด โดยปัญหาที่พบ คือ บุคลากรในสถานรับเลี้ยงเด็กขาดความรู้ความเข้าใจในนำแผนไปปฏิบัติ ขาดความรู้ในการประเมินผล และขาดงบประมาณในการปรับปรุงการปฏิบัติงานและพัฒนาคุณภาพการศึกษามากที่สุด 3) ด้านการรายงาน สถานรับเลี้ยงเด็กส่วนใหญ่ ไม่มีการกำหนดรูปแบบการจัดทำรายงานผลคุณภาพการศึกษาประจำปีมากที่สุด ปัญหาที่พบ คือ ขาดผู้ให้ความรู้ในการจัดทำรายงานคุณภาพการศึกษาประจำปีมากที่สุด 2. แนวทางสำหรับการประกันคุณภาพภายในของสถานรับเลี้ยงเด็ก มีดังนี้ 1) ด้านการเตรียมการ ควรมีการกำหนดโครงสร้างบทบาทหน้าที่ จัดทำคู่มือการปฏิบัติงานตามบทบาทหน้าที่ความรับผิดชอบของบุคลากร มอบหมายงานให้ตรงตามความรู้ ความสามารถ และจัดทำ จัดหาตัวอย่างแนวทางในการจัดทำแผนการดำเนินงานการจัดประสบการณ์ที่สำหรับเด็กวัยทารกและวัยเตาะแตะ 2) ด้านการดำเนินการ ควรมีการจัดให้มีการอบรมให้ความรู้ในการนำแผนไปปฏิบัติ ให้การสนับสนุน นิเทศ กำกับ ติดตาม จัดสรรงบประมาณ สิ่งอำนวยความสะดวก มีการกำหนดแนวทางในการประเมิน จัดอบรมให้ความรู้ จัดทำเครื่องมือการประเมินที่มีมาตรฐาน นำผลการประเมินมาวางแผนแก้ไขปัญหา มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ แบ่งปันความรู้ นวัตกรรมใหม่ ๆ กับสถานรับเลี้ยงเด็ก หน่วยงาน และองค์กรอื่น ๆ 3) ด้านการรายงาน ควรมีการจัดอบรมให้ความรู้ จัดทำคู่มือในการจัดทำรายงานตนเองหรือรายงานประจำปี กำหนดเนื้อหาสาระในการรายงานที่มีความเหมาะสมกับบริบทของสถานรับเลี้ยงเด็ก