Abstract:
จุดประสงค์ของการทำงานวิจัยครั้งนี้ ผู้วิจัยต้องการทดสอบความสัมพันธ์ระหว่างความเป็นกิจวัตรในงาน แรงจูงใจภายใน บรรยากาศที่เอื้อให้เกิดนวัตกรรมในองค์กร และความคิดสร้างสรรค์ โดยศึกษาอิทธิพลของระดับความเป็นกิจวัตรในงานที่มีผลต่อความคิดสร้างสรรค์ โดยมีแรงจูงใจภายในเป็นตัวส่งผ่านและมีบรรยากาศที่เอื้อต่อนวัตกรรมเป็นตัวแปรกำกับอิทธิพล กลุ่มตัวอย่างคือพนักงานบริษัทเอกชนในเขตกรุงเทพมหานครจำนวนทั้งสิ้น 232 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ มาตรวัดความเป็นกิจวัตรในงาน มาตรวัดแรงจูงใจภายใน มาตรวัดบรรยากาศที่เอื้อให้เกิดนวัตกรรมในองค์กร และมาตรวัดความคิดสร้างสรรค์ วิเคราะห์ข้อมูลทางสถิติโดยใช้ Conditional Process Model พบอิทธิพลของความเป็นกิจวัตรในงานที่มีผลต่อความคิดสร้างสรรค์ โดยถูกส่งผ่านแรงจูงใจภายในอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (อิทธิพลทางอ้อม, β = -.33; p < .01) โดยแรงจูงใจในงานมีอิทธิพลส่งผ่านโดยสมบูรณ์ (full mediation) กล่าวคือ เมื่อพนักงานรับรู้ว่างานที่ทำมีความเป็นกิจวัตรสูง ก็มักมีแรงจูงในภายในลดลง และแรงจูงใจภายในที่ลดลงนั้นก็ส่งผลให้ความคิดสร้างสรรค์ลดลง ส่วนบรรยากาศที่เอื้อให้เกิดนวัตกรรมนั้น ไม่มีผลกำกับอิทธิพลของความเป็นกิจวัตรในงาน ต่อความคิดสร้างสรรค์ และอิทธิพลของแรงจูงใจภายในต่อความคิดสร้างสรรค์
Description:
โครงงานทางจิตวิทยานี้เป็นส่วนหนึ่งของการศึกษาตามหลักสูตรปริญญาวิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาจิตวิทยา คณะจิตวิทยา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ปีการศึกษา 2558
A senior project submitted in partial fulfillment of the requirements for the Degree of Bachelor of Science in Psychology, Faculty of Psychology, Chulalongkorn University, Academic year 2015