dc.contributor.advisor |
ทิพย์นภา หวนสุริยา |
|
dc.contributor.advisor |
สักกพัฒน์ งามเอก |
|
dc.contributor.author |
กิตติพงษ์ อินทราพงษ์ |
|
dc.contributor.author |
พิชญุตม์ จุลศักดิ์ศรี |
|
dc.contributor.author |
ธนากร เรืองเดช |
|
dc.contributor.other |
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. คณะจิตวิทยา |
|
dc.date.accessioned |
2017-11-27T09:55:33Z |
|
dc.date.available |
2017-11-27T09:55:33Z |
|
dc.date.issued |
2558 |
|
dc.identifier.uri |
http://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/56365 |
|
dc.description |
โครงงานทางจิตวิทยานี้เป็นส่วนหนึ่งของการศึกษาตามหลักสูตรปริญญาวิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาจิตวิทยา คณะจิตวิทยา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ปีการศึกษา 2558
A senior project submitted in partial fulfillment of the requirements for the Degree of Bachelor of Science in Psychology, Faculty of Psychology, Chulalongkorn University, Academic year 2015 |
en_US |
dc.description.abstract |
จุดประสงค์ของการทำงานวิจัยครั้งนี้ ผู้วิจัยต้องการทดสอบความสัมพันธ์ระหว่างความเป็นกิจวัตรในงาน แรงจูงใจภายใน บรรยากาศที่เอื้อให้เกิดนวัตกรรมในองค์กร และความคิดสร้างสรรค์ โดยศึกษาอิทธิพลของระดับความเป็นกิจวัตรในงานที่มีผลต่อความคิดสร้างสรรค์ โดยมีแรงจูงใจภายในเป็นตัวส่งผ่านและมีบรรยากาศที่เอื้อต่อนวัตกรรมเป็นตัวแปรกำกับอิทธิพล กลุ่มตัวอย่างคือพนักงานบริษัทเอกชนในเขตกรุงเทพมหานครจำนวนทั้งสิ้น 232 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ มาตรวัดความเป็นกิจวัตรในงาน มาตรวัดแรงจูงใจภายใน มาตรวัดบรรยากาศที่เอื้อให้เกิดนวัตกรรมในองค์กร และมาตรวัดความคิดสร้างสรรค์ วิเคราะห์ข้อมูลทางสถิติโดยใช้ Conditional Process Model พบอิทธิพลของความเป็นกิจวัตรในงานที่มีผลต่อความคิดสร้างสรรค์ โดยถูกส่งผ่านแรงจูงใจภายในอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (อิทธิพลทางอ้อม, β = -.33; p < .01) โดยแรงจูงใจในงานมีอิทธิพลส่งผ่านโดยสมบูรณ์ (full mediation) กล่าวคือ เมื่อพนักงานรับรู้ว่างานที่ทำมีความเป็นกิจวัตรสูง ก็มักมีแรงจูงในภายในลดลง และแรงจูงใจภายในที่ลดลงนั้นก็ส่งผลให้ความคิดสร้างสรรค์ลดลง ส่วนบรรยากาศที่เอื้อให้เกิดนวัตกรรมนั้น ไม่มีผลกำกับอิทธิพลของความเป็นกิจวัตรในงาน ต่อความคิดสร้างสรรค์ และอิทธิพลของแรงจูงใจภายในต่อความคิดสร้างสรรค์ |
en_US |
dc.description.abstractalternative |
The purpose of this study was to examine the effect of task routine on creativity and the mediating effect of intrinsic motivation and moderating effects of climate for innovation. Data were collected from 232 employees of private organizations in Bangkok. Participants responded to the measures of perceived task routine, intrinsic motivation, climate for innovation, and employee creativity. Data analysis was conducted using conditional process model. The findings confirmed the hypothesis that intrinsic motivation fully mediated the relationship between task routine and employee creativity (Indirect Effect, β = -.33; p < .01) such that participants who perceived that their task was highly routinized also tend to have lower intrinsic motivation and then lower creativity. On the other hand, climate for innovation did not have significant moderating effect either on the relationship between task routine and employee creativity, or on the relationship between intrinsic motivation and employee creativity. The Implications of the findings for improving employee creativity are discussed. |
en_US |
dc.language.iso |
th |
en_US |
dc.publisher |
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย |
en_US |
dc.rights |
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย |
en_US |
dc.subject |
ความคิดสร้างสรรค์ |
en_US |
dc.subject |
การจูงใจ (จิตวิทยา) |
en_US |
dc.subject |
การทำงาน -- แง่จิตวิทยา |
en_US |
dc.subject |
จิตวิทยาองค์การ |
en_US |
dc.subject |
Creative thinking |
en_US |
dc.subject |
Motivation (Psychology) |
en_US |
dc.subject |
Work -- Psychological aspects |
en_US |
dc.title |
การทำนายความคิดสร้างสรรค์ของพนักงานด้วยระดับความเป็นกิจวัตรของงานโดยมีแรงจูงใจภายในเป็นตัวแปรส่งผ่านและบรรยากาศที่เอื้อให้เกิดนวัตกรรมภายในองค์การเป็นตัวแปรกำกับ |
en_US |
dc.title.alternative |
PREDICTING EMPLOYEE CREATIVITY BY TASK ROUTINE WITH INTRINSIC MOTIVATION AS A MEDIATOR AND CLIMATE FOR INNOVATION AS A MODERATOR |
en_US |
dc.type |
Senior Project |
en_US |
dc.email.advisor |
Thipnapa.H@chula.ac.th |
|
dc.email.advisor |
sakkapat.N@chula.ac.th |
|