DSpace Repository

ปัจจัยทำนายพฤติกรรมการเลิกสูบบุหรี่ของกลุ่มชายวัยทำงาน

Show simple item record

dc.contributor.advisor เรวดี วัฒฑกโกศล
dc.contributor.author ดุษฎี บุญฤทธิ์ธัญกุล
dc.contributor.author พักตร์พิไล ศิลาคะจิ
dc.contributor.author ศุภาพิชญ์ แก้ววัชระรังษี
dc.contributor.other จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. คณะจิตวิทยา
dc.date.accessioned 2018-03-20T09:30:34Z
dc.date.available 2018-03-20T09:30:34Z
dc.date.issued 2559
dc.identifier.uri http://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/57871
dc.description โครงงานทางจิตวิทยานี้เป็นส่วนหนึ่งของการศึกษาตามหลักสูตรปริญญาวิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาจิตวิทยา คณะจิตวิทยา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ปีการศึกษา 2559 A senior project submitted in partial fulfillment of the requirements for the Degree of Bachelor of Science in Psychology, Faculty of Psychology, Chulalongkorn University, Academic year 2016 en_US
dc.description.abstract การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาหาปัจจัยในการทำนายพฤติกรรมการเลิกสูบบุหรี่ของกลุ่มชายวัยทำงาน จากแนวคิดแบบแผนความเชื่อด้านสุขภาพ (Health Beliefs Model; Rosenstock, 1974) กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยคือ เพศชาย วัยทำงาน อายุระหว่าง 25-59 ปี ที่อาศัยในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร จำนวน 175 คน วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้การถดถอยพหุคูณแบบปกติ (Enter Multiple Regression) ผลการวิจัยพบว่า การรับรู้ความรุนแรงของโรคที่เกิดจากการสูบบุหรี่ การรับรู้โอกาสเสี่ยงที่จะเกิดปัญหาสุขภาพจากการสูบบุหรี่ การรับรู้ประโยชน์ของการเลิกสูบบุหรี่ และการรับรู้ความสามารถของตนในการเลิกสูบบุหรี่ สามารถอธิบายความแปรปรวนของความตั้งใจที่จะเลิกสูบบุหรี่ได้ร้อยละ 15.5 (p<.001) โดยการรับรู้ความรุนแรงของโรคที่เกิดจากการสูบบุหรี่ (β =.297) การรับรู้ประโยชน์ของการเลิกสูบบุหรี่ (β =.251) และการรับรู้ความสามารถของตนในการเลิกสูบบุหรี่ (β =.172) มีอิทธิพลในการทำนายความตั้งใจที่จะเลิกสูบบุหรี่ได้อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 ส่วนการรับรู้โอกาสเสี่ยงที่จะเกิดปัญหาสุขภาพจากการสูบบุหรี่ไม่มีอิทธิพลในการทำนายความตั้งใจที่จะเลิกสูบบุหรี่ en_US
dc.description.abstractalternative The objective of this research was to study factors predicting smoking cessation among working class males. Participants were 175 working class males who live in Bangkok, Thailand. Data was analyzed by Enter Multiple Regression. This research was based on the theory of Health Beliefs Model; Rosenstock, (1974). This research found that Perceived severity, Perceived susceptibility, Perceived benefits, and Self-efficacy significantly predicted Intention to quit smoking (R^2= 15.5, p<.001). Perceived severity (β =.297), Perceived benefits (β =.251), and Self-efficacy (β =.172) had significant standardized coefficient at .01 level. Perceived susceptibility did not significantly predict Intention to quit smoking. en_US
dc.language.iso th en_US
dc.publisher จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย en_US
dc.rights จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย en_US
dc.subject การเลิกบุหรี่ en_US
dc.subject การเลิกบุหรี่ -- พยากรณ์ en_US
dc.subject การเลิกนิสัย en_US
dc.subject การเลิกนิสัย -- พยากรณ์ en_US
dc.subject Smoking cessation en_US
dc.subject Smoking cessation -- Forecasting en_US
dc.subject Habit breaking en_US
dc.subject Habit breaking -- Forecasting en_US
dc.title ปัจจัยทำนายพฤติกรรมการเลิกสูบบุหรี่ของกลุ่มชายวัยทำงาน en_US
dc.title.alternative Factors predicting smoking cessation among working class males en_US
dc.type Senior Project en_US
dc.email.advisor wrewadee@yahoo.com


Files in this item

This item appears in the following Collection(s)

Show simple item record