DSpace Repository

ความสัมพันธ์ระหว่างสถานภาพทางอาชีพหลังสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี เศรษฐานะทางสังคม และความคาดหวังของพ่อแม่ต่อการรับรู้การเป็นผู้ใหญ่วัยเริ่ม

Show simple item record

dc.contributor.advisor นิปัทม์ พิชญโยธิน
dc.contributor.author พรธิดา อารีย์รักษากุล
dc.contributor.author รัชฎาภรณ์ ม่วงบัว
dc.contributor.author ศรีธิดา บัวเลิศ
dc.contributor.other จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. คณะจิตวิทยา
dc.date.accessioned 2018-03-21T07:27:48Z
dc.date.available 2018-03-21T07:27:48Z
dc.date.issued 2559
dc.identifier.uri http://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/57885
dc.description โครงงานทางจิตวิทยานี้เป็นส่วนหนึ่งของการศึกษาตามหลักสูตรปริญญาวิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาจิตวิทยา คณะจิตวิทยา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ปีการศึกษา 2559 A senior project submitted in partial fulfillment of the requirements for the Degree of Bachelor of Science in Psychology, Faculty of Psychology, Chulalongkorn University, Academic year 2016 en_US
dc.description.abstract การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างสถานภาพทางอาชีพหลังสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี เศรษฐานะทางสังคม และความคาดหวังของพ่อแม่ต่อการรับรู้การเป็นผู้ใหญ่วัยเริ่ม ศึกษาในกลุ่มตัวอย่างอายุ 22-30 ปี ที่สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีแล้ว จำนวน 526 คน แบ่งเป็น 4 สภานภาพทางอาชีพ ได้แก่ เรียนเต็มเวลา 145 คน เรียนไปด้วยทำงานไปด้วย 102 คน ทำงานเต็มเวลา 224 คน และว่างงาน 55 คน โดยผู้เข้าร่วมการวิจัยได้ตอบมาตรวัดการรับรู้การเป็นผู้ใหญ่วัยเริ่ม มาตรวัดความคาดหวังของพ่อแม่ และมาตรวัดเศรษฐานะทางสังคม ตามลำดับ การเก็บข้อมูลใช้การเก็บผ่านแบบสอบถามออนไลน์โดยเลือกกลุ่มตัวอย่างตามสะดวก ผลการศึกษาพบว่าผู้ที่เรียนเต็มเวลามีแนวโน้มที่จะรับรู้ว่าตนเป็นผู้ใหญ่วัยเริ่มมากกว่าผู้ที่ทำงานเต็มเวลาในด้านของมุ่งสำรวจความเป็นไปได้ของตนเอง (p = .034) ทางด้านเศรษฐานะทางสังคม พบว่าผู้ที่มีเศรษฐานะอยู่ในระดับสูงจะมีการรับรู้การเป็นผู้ใหญ่วัยเริ่มในด้านมุ่งสำรวจความเป็นไปได้ของตนเองสูง (β = 0.232, p < .05) ในขณะที่มีการรับรู้ในด้านความรู้สึกไม่มั่นคงต่ำ (β = -0.256, p < .05) สุดท้าย คือ ความคาดหวังของพ่อแม่ พบว่าผู้ที่รับรู้ความทะเยอทะยานของพ่อแม่สูง จะรับรู้การเป็นผู้ใหญ่วัยเริ่มในด้านมุ่งสำรวจความเป็นไปได้ของตนเองต่ำ (β = -.225, p < .05) ในทางกลับกัน หากรับรู้ว่าพ่อแม่มีความคาดหวังทางการเรียนสูงจะรับรู้การเป็นผู้ใหญ่วัยเริ่มในด้านมุ่งสำรวจความเป็นไปได้ของตนเองสูงเช่นกัน (β = .239, p < .05) อย่างไรก็ตาม หากบุคคลมีการรับรู้ความคาดหวังของพ่อแม่ทางอาชีพสูงจะรับรู้การเป็นผู้ใหญ่วัยเริ่มในด้านความรู้สึกก้ำกึ่งในอัตลักษณ์ของตนเองสูง (β = .169, p < .05) ส่วนผู้ที่รับรู้ความทะเยอทะยานของพ่อแม่ (β = .131, p < .05) และความคาดหวังของพ่อแม่ทางอาชีพที่สูง (β = .239, p < .05) จะรับรู้การเป็นผู้ใหญ่วัยเริ่มด้านความรู้สึกไม่มั่นคงสูง ในทางตรงกันข้ามหากรับรู้ความคาดหวังของพ่อแม่ทางการเรียนสูง บุคคลจะรับรู้การเป็นผู้ใหญ่วัยเริ่มด้านความรู้สึกไม่มั่นคงต่ำ (β = -.220, p < .05) กล่าวได้ว่า ปัจจัยต่าง ๆ มีความเกี่ยวข้องกับการประเมินการรับรู้การเป็นผู้ใหญ่วัยเริ่มของบุคคล ทั้งเศรษฐานะทางสังคม และความคาดหวังของพ่อแม่ในรูปแบบต่าง ๆ ซึ่งการอยู่ในช่วงผู้ใหญ่วัยเริ่มเป็นเรื่องที่ดี เนื่องจากได้สำรวจความชอบและพัฒนาความสามารถ เพื่อเตรียมพร้อมสู่การเป็นผู้ใหญ่ตอนต้น อย่างไรก็ตาม หากบุคคลตกอยู่ในช่วงนี้นานเกินไป อาจส่งผลต่อการใช้ชีวิตของตัวบุคคล ทั้งความล้มเหลวในการค้นหาอัตลักษณ์ และไม่พร้อมที่จะรับผิดชอบชีวิตของตนเอง en_US
dc.description.abstractalternative The aim of this study was to examine the relations among work status after graduation, socioeconomic status, and parental expectations towards self-perception of being emerging adults. Participants were 526 college-graduate emerging adults of age 22-30, with 4 different statuses: full-time graduate students (n = 145), graduate students who also work full-time or part-time (n = 102), working full-time (n = 224), and unemployed (n = 55). Participants completed measures namely Inventory of Dimensions of Emerging Adulthood, socioeconomic status of a family (SES), and Perception of Parental Expectations Inventory. The results indicated that full-time graduate students (M = 2.97) scored significantly higher than people who worked full-time job (M = 2.83) on emerging adults’ perception of experimentation/possibilities/self-focused (p = .034). SES was positively and significantly correlated with experimentation/possibilities/self-focused (β = 0.232, p < .05) and negatively correlated with negativity/Instability (β = -0.256, p < .05). We found that parental ambitions (β = -.225, p < .05) and academic expectations (β = .239, p < .05) were associated with experimentation/ possibilities/self-focused. Parental career expectation was associated with identity exploration/feeling in-between (β = .169, p < .05). Finally, parental ambitions (β = .131, p < .05), academic expectations (β = -.220, p < .05) and career expectations (β = .239, p < .05) were associated with negativity/instability. The results shown that such variables, including socioeconomic status and variety of parental expectations, are associated with how person perceived oneself as being an emerging adult. This period of life is said to help people explore themselves as well as improve skills needed in order to be an adult. However, being an emerging adult for too long will led to a negative outcome such as failure to identify oneself and irresponsible for one’s life. en_US
dc.language.iso th en_US
dc.publisher จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย en_US
dc.rights จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย en_US
dc.subject การรับรู้ตนเอง en_US
dc.subject ความสำเร็จ -- แง่จิตวิทยา en_US
dc.subject บัณฑิต -- ภาวะสังคม en_US
dc.subject Self-perception en_US
dc.subject Success -- Psychological aspects en_US
dc.subject College graduates -- Social conditions en_US
dc.title ความสัมพันธ์ระหว่างสถานภาพทางอาชีพหลังสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี เศรษฐานะทางสังคม และความคาดหวังของพ่อแม่ต่อการรับรู้การเป็นผู้ใหญ่วัยเริ่ม en_US
dc.title.alternative Relations among work status after graduation, socioeconomic status and parental expectations towards self-perception of being emerging adults en_US
dc.type Senior Project en_US
dc.email.advisor nipat.p@chula.ac.th


Files in this item

This item appears in the following Collection(s)

Show simple item record