Abstract:
งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อศึกษากรอบแนวคิดการบริหารวิชาการสถาบันอุดมศึกษาในกำกับของรัฐและสมรรถนะข้ามสายงาน 2) เพื่อศึกษาสภาพปัจจุบันและสภาพที่พึงประสงค์ของการบริหารวิชาการสถาบันอุดมศึกษาในกำกับของรัฐตามแนวคิดสมรรถนะข้ามสายงาน 3) เพื่อพัฒนากลยุทธ์การบริหารวิชาการสถาบันอุดมศึกษาในกำกับของรัฐตามแนวคิดสมรรถนะข้ามสายงาน โดยใช้วิธีวิจัยแบบผสมวิธีพหุระยะ (Multiphase mixed method approach) ประชากรที่ใช้ในการวิจัย คือ สถาบันอุดมศึกษาในกำกับของรัฐ จำนวน 24 แห่ง ผู้ให้ข้อมูล ได้แก่ ได้แก่ คณบดี รองคณบดีฝ่ายวิชาการ รองคณบดีฝ่ายกิจการนิสิตนักศึกษา หัวหน้าภาควิชา และคณาจารย์ รวมจำนวน 448 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แบบสัมภาษณ์ความเหมาะสมของกรอบแนวคิดวิจัย แบบสอบถาม แบบประเมินร่างกลยุทธ์ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าดัชนี PNImodified และการวิเคราะห์เนื้อหา
ผลการวิจัยพบว่า 1) กรอบแนวคิดการบริหารวิชาการสถาบันอุดมศึกษาในกำกับของรัฐ ประกอบด้วยการดำเนินงาน 4 ด้าน ได้แก่ (1) การพัฒนาหลักสูตร (2) การจัดการเรียนการสอน (3) การจัดกิจการพัฒนานิสิตนักศึกษา และ (4) การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ กรอบแนวคิดสมรรถนะข้ามสายงาน ประกอบด้วย สมรรถนะหลัก 5 กลุ่ม ได้แก่ (1) การคิดวิพากษ์และนวัตกรรม (2) ทักษะระหว่างบุคคล (3) ทักษะภายในบุคคล (4) ความเป็นพลเมืองโลก และ (5) ความฉลาดรู้ทางสื่อและสารสนเทศ 2) สภาพปัจจุบันในภาพรวมอยู่ในระดับปานกลาง โดยด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ ด้านการจัดการเรียนการสอน ส่วนสภาพที่พึงประสงค์ในภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด โดยด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ การพัฒนาหลักสูตร 3) กลยุทธ์การบริหารวิชาการสถาบันอุดมศึกษาในกำกับของรัฐตามแนวคิดสมรรถนะข้ามสายงาน ประกอบด้วย 4 กลยุทธ์หลัก 12 กลยุทธ์รอง 37 วิธีดำเนินการ โดยมีกลยุทธ์หลัก คือ (1) เร่งรัดพัฒนาหลักสูตรตามแนวคิดสมรรถนะข้ามสายงาน มีกลยุทธ์รองคือ 1.1) เพิ่มจุดมุ่งหมายหลักสูตรเพื่อพัฒนาทักษะภายในบุคคล ความฉลาดรู้ทางสื่อและสารสนเทศ และการคิดวิพากษ์และนวัตกรรม 1.2) ปรับปรุงการนำหลักสูตรไปใช้ในการจัดการเรียนการสอนเพื่อเสริมสร้างการคิดวิพากษ์และนวัตกรรมและทักษะภายในบุคคล 1.3) เสริมจุดแข็งการนำหลักสูตรไปใช้ในการจัดการเรียนการสอนเพื่อพัฒนาทักษะระหว่างบุคคล (2) ยกระดับการจัดการเรียนการสอนตามแนวคิดสมรรถนะข้ามสายงาน มีกลยุทธ์รองคือ 2.1) ปรับรูปแบบการดำเนินการจัดการเรียนการสอนเน้นการสอดแทรกการคิดวิพากษ์และนวัตกรรมและทักษะภายในบุคคล 2.2) เพิ่มศักยภาพของอาจารย์ให้สามารถประยุกต์ใช้เทคโนโลยีออกแบบการจัดการเรียนการสอน Active Learning เพื่อเสริมสร้างทักษะภายในบุคคลและความฉลาดรู้ทางสื่อและสารสนเทศ 2.3) เสริมจุดแข็งการวางแผนการจัดการเรียนการสอนโดยการพัฒนาสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเสริมสร้างทักษะระหว่างบุคคลที่สามารถติดต่อสื่อสารกันได้ทุกที่ทุกเวลา (3) พลิกโฉมการจัดกิจการนิสิตนักศึกษาตามแนวคิดสมรรถนะข้ามสายงาน มีกลยุทธ์รองคือ 3.1) ปรับเปลี่ยนรูปแบบการจัดกิจกรรมนอกหลักสูตรเพื่อพัฒนานิสิตนักศึกษาโดยส่งเสริมการเรียนรู้จากการลงมือปฏิบัติเน้นที่ให้เกิดการคิดวิพากษ์และนวัตกรรมและพัฒนาความฉลาดรู้ทางสื่อและสารสนเทศ 3.2) ปรับแนวทางการจัดสหกิจศึกษาโดยเน้นการคัดสรรหน่วยงานภายนอกและสถานประกอบการที่ประสบความสำเร็จในการพัฒนาความฉลาดรู้ทางสื่อและสารสนเทศ ทักษะภายในบุคคล และการคิดวิพากษ์และนวัตกรรม 3.3) เสริมจุดแข็งการจัดกิจกรรมในหลักสูตรเพื่อพัฒนานิสิตนักศึกษาโดยมุ่งผลลัพธ์การเรียนรู้ที่เน้นทักษะระหว่างบุคคล และ (4) ปฏิรูปการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ตามแนวคิดสมรรถนะข้ามสายงาน มีกลยุทธ์รองคือ 4.1) ปรับเปลี่ยนวิธีการการนำผลการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ไปใช้เพื่อให้เกิดผลลัพธ์การเรียนรู้ที่เน้นการคิดวิพากษ์และนวัตกรรม ความเป็นพลเมืองโลก ทักษะภายในบุคคล และความฉลาดรู้ทางสื่อและสารสนเทศ 4.2) ผลักดันการวัดและประเมินผลการเรียนรู้มุ่งผลลัพธ์การเรียนรู้ความเป็นพลเมืองโลก การคิดวิพากษ์และนวัตกรรมและทักษะภายในบุคคล และ 4.3) เสริมจุดแข็งการวัดและประเมินผลการเรียนรู้มุ่งผลลัพธ์การเรียนรู้ทักษะระหว่างบุคคลโดยส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีมาเป็นส่วนหนึ่งของการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ของนิสิตนักศึกษา