Abstract:
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ ดังนี้ 1. เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางเรียนคณิตศาสตร์ระหว่างนักเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 2 กลุ่มที่ได้รับ การจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้โมเดลของแวนฮีลีกับกลุ่มที่เรียนแบบปกติ 2. เพื่อเปรียบเทียบความสามารถในการให้เหตุผลทางเรขาคณิตระหว่างนักเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 2 กลุ่มที่ได้รับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้โมเดลสอนของแวนฮีลีกับกลุ่มที่เรียนแบบปกติ ประชากรในการวิจัยครั้งนี้ เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ในโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่ การศึกษากรุงเทพมหานคร เขต 1 สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ กลุ่ม ตัวอย่างเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2553 โรงเรียนสันติราษฎร์วิทยาลัย จำนวน 77 คน เป็นนักเรียนกลุ่มทดลอง จำนวน 41 คน และนักเรียนกลุ่มควบคุม จำนวน 36 คน โดยนักเรียน กลุ่มทดลองได้รับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้โมเดลของแวนฮีลี และนักเรียนกลุ่มควบคุมได้รับการจัด กิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์แบบปกติ เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล คือ แบบวัดพื้นฐานด้านการให้ เหตุผลทางเรขาคณิต แบบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์ และแบบวัดการให้เหตุผลทางเรขาคณิต เครื่องมือที่ใช้ในการทดลอง คือ แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้โมเดลของแวนฮีลี และแผนการจัดกิจกรรม การเรียนรู้แบบปกติ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่ามัชฌิมเลขคณิต ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบค่าที (t-test) ผลการวิจัยพบว่า 1. นักเรียนกลุ่มที่ได้รับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้โมเดลของแวนฮีลีมีคะแนนเฉลี่ยผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียนคณิตศาสตร์สูงกว่ากลุ่มที่เรียนแบบปกติ ที่ระดับนัยสำคัญ .05 2. นักเรียนกลุ่มที่ได้รับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้โมเดลของแวนฮีลีมีคะแนนเฉลี่ยความสามารถ ในการให้เหตุผลทางเรขาคณิตสูงกว่ากลุ่มที่เรียนแบบปกติ ที่ระดับนัยสำคัญ .05