Abstract:
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) ศึกษาแนวคิดพื้นฐานสำหรับการพัฒนาโมเดลเชิงสาเหตุของสมรรถนะทาง พหุวัฒนธรรมของนักเรียนจากการศึกษาทฤษฎีที่เกี่ยวข้องและการปฏิบัติที่ดีของโรงเรียน (2) พัฒนาและตรวจสอบโมเดลเชิงสาเหตุของสมรรถนะทางพหุวัฒนธรรมของนักเรียนที่มีความฉลาดทางวัฒนธรรมเป็นตัวแปรส่งผ่านและ (3) ตรวจสอบความไม่แปรเปลี่ยนของโมเดลเชิงสาเหตุของสมรรถนะทางพหุวัฒนธรรมที่มีความฉลาดทางวัฒนธรรมเป็นตัวแปรส่งผ่านตามประเภทของโรงเรียน การวิจัยนี้เป็นการวิจัยข้ามวัฒนธรรมแบบผสมวิธี ระยะที่ 1 เป็นการศึกษาเชิงคุณภาพเพื่อวิเคราะห์และกำหนดองค์ประกอบของสมรรถนะ การจัดการชั้นเรียนพหุวัฒนธรรมของครู โดยใช้วิธีวิทยาการวิจัยเชิงคุณภาพข้ามวัฒนธรรมในการเก็บรวบรวมข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่างจากครูปฏิบัติดีจำนวน 10 คน ที่ปฏิบัติการสอนในระดับมัธยมศึกษาตอนต้นอยู่ในโครงการพัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดารตามพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ระยะที่ 2 การศึกษาเชิงปริมาณเพื่อตรวจสอบความตรงของโมเดลเชิงสาเหตุของสมรรถนะทางพหุวัฒนธรรมของผู้เรียน มีการเก็บข้อมูลโดยใช้แบบวัด โดยมีกลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนจำนวน 1,995 คน และครูจำนวน 60 คน ในโรงเรียนสังกัดสพฐ. โรงเรียนในโครงการพัฒนาเด็กและเยาวชนฯ และโรงเรียนนานาชาติในกรุงเทพมหานคร ทำการวิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติเชิงบรรยาย วิเคราะห์โมเดลสมการโครงสร้างและทดสอบความไม่แปรเปลี่ยนของโมเดลสมการโครงสร้างโดยใช้โปรแกรม LISREL ผลการวิจัยที่สำคัญสรุปได้ดังนี้ (1) แนวคิดพื้นฐานที่นำมาพัฒนาเป็นกรอบแนวคิดในรูปแบบความสัมพันธ์เชิงสาเหตุของสมรรถนะทางพหุวัฒนธรรมของนักเรียนจากการศึกษาทฤษฎีที่เกี่ยวข้องและเก็บรวบรวมข้อมูลภาคสนามจากโรงเรียนที่มีการปฏิบัติที่ดี คือ ตัวบ่งชี้สมรรถนะการจัดการชั้นเรียนพหุวัฒนธรรมของครูประกอบด้วย 4 องค์ประกอบ และ 10 ตัวบ่งชี้ ได้แก่ (1.1) การติดตามและการจัดการพฤติกรรมของผู้เรียน มี 4 ตัวบ่งชี้ ได้แก่ การใช้กฎและสัญญาณเงียบในการจัดการพฤติกรรมที่ ไม่เหมาะสมของผู้เรียน การให้ข้อเสนอแนะและแสดงให้เห็นถึงความตระหนักรู้เกี่ยวกับความต้องการของผู้เรียน การแก้ไขข้อผิดพลาดและการลงโทษผู้เรียนโดยไม่ทำลายความภาคภูมิใจของผู้เรียน และการให้ผู้ปกครองเข้ามามีส่วนร่วมในชั้นเรียน (1.2) การสร้างและรักษาความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างครูและผู้เรียนและระหว่างผู้เรียนต่างกลุ่มวัฒนธรรม มี 2 ตัวบ่งชี้ ได้แก่ การสร้างความสัมพันธ์ที่ดี และการจัดให้นักเรียนที่มีความต่างทางวัฒนธรรมได้ทำงานร่วมกัน (1.3) การจัดการเรียนการสอนให้ผู้เรียนเกิดความสนใจและความผูกพันอยู่กับงาน มี 2 ตัวบ่งชี้ ได้แก่ การเชื่อมโยงเนื้อหาบทเรียนให้เข้ากับพื้นฐานทางวัฒนธรรมของผู้เรียน และการใช้กลวิธีการสอนที่ทำให้ผู้เรียนผูกพันอยู่กับงานและ (1.4) ทัศนคติและความรู้ที่จำเป็นของครู มี 2 ตัวบ่งชี้ ได้แก่ การตระหนักรู้ถึงทัศนคติของตนเองต่อนักเรียนต่างวัฒนธรรม และการมีความรู้ที่จำเป็นในการจัดการชั้นเรียนพหุวัฒนธรรม (2) ผลการวิเคราะห์โมเดลความสัมพันธ์เชิงสาเหตุของสมรรถนะทางพหุวัฒนธรรมของนักเรียนพบว่าโมเดลความสัมพันธ์เชิงสาเหตุของสมรรถนะทางพหุวัฒนธรรมของนักเรียนสอดคล้องกลมกลืนกับข้อมูลเชิงประจักษ์ (2 = 36.935; df = 27; p = 0.096; GFI = 0.997; AGFI = 0.992; และ RMR = 0.016) โดยตัวแปรความฉลาดทางวัฒนธรรมส่งอิทธิพลทางตรงต่อตัวแปรสมรรถนะทางพหุวัฒนธรรมของนักเรียนสูงสุด เท่ากับ 1.122 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01 และสมรรถนะทางพหุวัฒนธรรมของนักเรียนได้รับอิทธิพลรวมจากสมรรถนะการจัดการชั้นเรียนพหุวัฒนธรรมในทิศทางลบ มีค่าเท่ากับ -0.158 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01 (3) โมเดลเชิงสาเหตุสมรรถนะทางพหุวัฒนธรรมของนักเรียนมีความไม่แปรเปลี่ยนในรูปแบบโมเดลระหว่างกลุ่มโรงเรียน และค่าพารามิเตอร์ที่ไม่แปรเปลี่ยนได้แก่ ค่าพารามิเตอร์เมทริกซ์อิทธิพลเชิงสาเหตุระหว่างตัวแปรแฝงภายใน และค่าพารามิเตอร์เมทริกซ์อิทธิพลเชิงสาเหตุจากตัวแปรแฝงภายนอกไปยังตัวแปรแฝงภายใน