Abstract:
การวิจัยครั้งนื้เป็นการวิจัยภาคสนามที่มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษากระบวนการร่วมมือกันของชุมชนในโครงการวิจัยและเพื่อพัฒนาหลักสูตรเศรษฐศาสตร์ท้องถิ่นโดยนำเอาบริบททางสังคมของท้องถิ่นด้านการทำงานไม้แกะสลักมาใช้เป็นข้อมูลพื้นฐานในกระบวนการพัฒนา หลักสูตร กลุ่มเป้าหมายได้แก่ผู้ให้ความร่วมมือชาวบ้านถวายจำนวน 9 คน และแรงงานจากชาวบ้านเก้าหมู่บ้านใกล้เคียงบ้านถวาย จำนวน 47 คนซึ่งได้มาจากการเลือกแบบเจาะจงตาม วิธีการหลักที่ใซ้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลได้แก่การสังเกตอย่างมีส่วนร่วม การสัมภาษณ์อย่างไม่เป็นทางการ การสัมภาษณ์กลุ่มและการสนทนากลุ่ม ผู้วิจัยใช้วิธีการตรวจสอบข้อมูลที่รวบรวมจากหลายแหล่งโดยใช้วิธีการตรวจสอบลามเส้าและวิเคราะห์ข้อมูลภายใต้กรอบทถูษฏีทางสังคมวิทยาและทางการศึกษา ผลการวิจัยพบว่ามีดังนี้ การร่วมมือกันของชาวบ้านบ้านถวายในโครงการวิจัยเพื่อการพัฒนาหลักสูตรเศรษฐศาสตร์ท้องถิ่น มีลักษณะของการร่วมมือกัน 2 ลักษณะ ได้แก่ การร่วมมือกันระหว่างชาวบ้านกับผู้วิจัยและการร่วมมือกันระหว่างชาวบ้านกับชาวบ้าน การร่วมมือกันทั้งสองลักษณะนี้พบว่า เกิดขึ้นใน 2 ระยะ ระยะที่ 1 ในช่วงการศึกษาหาข้อมูลเศรษฐศาสตร์การประกอบอาชีพไม้แกะสลักในท้องถิ่น และระยะที่ 2 ในช่วงของการพัฒนาหลักสูตรเศรษฐศาสตร์ท้องถิ่นในระยะที่ 1 การร่วมมือกันของชาวบ้านกับผู้วิจัยเกิดขึ้นเมื่อชาวบ้านกับผู้วิจัยช่วยกันค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับเศรษฐศาสตร์การทำงานไม้แกะสลัก ส่วนการร่วมมือของชาวบ้านด้วยกันเองเกิดขึ้นเมื่อชาวบ้านพยายามที่จะทำความเข้าใจและสะท้อนสภาพการทำงานไม้แกะสลักที่เกิดตามสภาพที่เกิดขึ้นจริงในหมู่บ้าน ในระยะที่ 2 การร่วมมือระหว่างผู้วิจัยกับชาวป้านเกิดขึ้นเมื่อชาวบ้านกับผู้วิจัยช่วยกันตรวจสอบข้อมูลเพื่อจะนำมาจัดทำเป็นเนื้อหาเศรษฐศาสตร์ ส่วนการร่วมมือระหว่างชาวบ้านด้วยกันเองเกิดขึ้นเมื่อกลุ่มผู้นำชุมชนและชาวบ้านกระตุ้นกันเองให้เกิดการนำเอาหลักสูตรไปใช้ เนื้อหาหลักสูตรเศรษฐศาสตร์ท้องถิ่นที่พัฒนาขึ้นประกอบด้วยมโนทัศน์ทางเศรษฐศาสตร์ 12 มโนทัศน์ ได้แก่ ความชำนาญพิเศษการแบ่งงานกันทำตามความชำนาญ การตัดสินใจและแรงสูงใจ การลงทุนแสะผลกำไร การแลกเปลี่ยนโดยความสมัครใจ อุปทานและอุปสงค์ อุปสงค์และอุปทาน การแข่งขันกันขาย การกระจายสินค้า การมีออยู่อย่างจำกัดของทรัพยากร การกำหนดราคา และสถาบันทางการเงิน มโนทัศน์เศรษฐศาสตร์ทั้ง 12 มโนทัศน์จัดเป็น 4 หน่วยการเรียนผู้ ได้แก่ เอกลักษณ์ของภูมิปัญญาท้องถิ่นกับการผลิตงานศิลปหัตถกรรมบ้านถวายความเอื้ออาทรของผู้ขายและกำไรที่ได้รับ การร่วมใจร่วมแรงสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชน และการผลิตไม้แกะสลักบนฐานการพัฒนาที่ยั่งยืน ประเด็นหลักของความแตกต่างระหว่างหลักสูตรเศรษฐศาสตร์ท้องถิ่นที่พัฒนาขึ้นกับหลักสูตรเศรษฐศาสตร์แม่บทอยู่ที่เนื้อหาสำหรับการเรียนผู้ในหลักสูตร เนื้อหาเศรษฐศาสตร์ท้องถิ่นในหลักสูตรที่พัฒนาขึ้นได้มาจากการประสมประสานให้เกิดความพอดีระหว่างหลักการที่เป็นเศรษฐศาสตร์สากลแนวทุนนิยมกับวัฒนธรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่น และเนื้อหาเศรษฐศาสตร์ท้องถิ่นแนวประสมประสานในหลักสูตรที่พัฒนาขึ้นนี้จะทุกนำมาบูรณาการกับเนื้อหารายวิชาอื่นที่เกี่ยวข้อง แล้วจัดทำเป็นหน่วยการเรียนรู้ขึ้น 4 หน่วย ในขณะที่เนื้อหามโนทัศน์เศรษฐศาสตร์หลักสูตรแม่บทมีเนื้อหาที่มาจากหลักการเศรษฐศาสตร์สากลแนวทุนนิยมเพียงอย่างเดียว ดังนั้นการนำหลักสูตร เศรษฐศาสตร์แม่บทไปใช้ในโรงเรียน โรงเรียนจำเป็นเต้องบูรณาการเนื้อหารายวิชาอื่นเข้ากับมาตรฐานเศรษฐศาสตร์เพื่อจัดทำเป็นหน่วยการเรียนรู้ขึ้น ส่วนการใช้หลักสูตรเศรษฐศาสตร์ที่พัฒนาขึ้นนี้โรงเรียนสามารถนำเอาบทเรียนตามแนวทางที่จัดไว้ให้แล้วในหลักสูตรไปไช้ได้เลย