Abstract:
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาการรับรู้บทบาทหญิงชายของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาในเขตกรุงเทพมหานคร และเปรียบเทียบการรับรู้บทบาทหญิงชายตามตัวแปรด้านเพศ วัย และประเภทของโรงเรียน ซึ่งผู้วิจัยได้ดำเนินการวิจัยโดยเก็บข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่าง ซึ่งเป็นนักเรียนชาย 400 คน และนักเรียนหญิง 400 คน ศึกษาในระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นและตอนปลาย โรงเรียนมัธยมศึกษาสังกัดกรมสามัญศึกษาเขตกรุงเทพมหานคร จากโรงเรียนมัธยมศึกษาทั้ง 3 ประเภท คือ โรงเรียนชายล้วน โรงเรียนหญิงล้วน และโรงเรียนสหศึกษา เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสอบถามการรับรู้บทบาทของเพศหญิงและแบบสอบถามการรับรู้บทบาทของเพศชาย วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติทดสอบที (t-test) ที่ระดับนัยสำคัญทางสถิติ .05 ผลการวิจัยมีดังนี้ 1. การรับรู้บทบาทหญิงชายของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา พบว่าในด้านคุณลักษณะความเป็นหญิงชายคุณลักษณะที่นักเรียนรับรู้ว่าเป็นลักษณะของหญิงมากที่สุด คือ กตัญญู ส่วนคุณลักษณะที่นักเรียนรับรู้ว่าเป็นคุณลักษณะของชายมากที่สุด คือ ชอบกีฬา และด้านความสามารถในการประกอบอาชีพนั้น นักเรียนรับรู้ว่า ผู้หญิงมีความสามารถในการประกอบอาชีพช่างเสริมความงาม และผู้ชายมีความสามารถในการประกอบอาชีพตำรวจสูงสุด ในด้านการทำกิจกรรมในครอบครัว นักเรียนรับรู้ว่าการเลี้ยงดูลูกเป็นกิจกรรมของหญิง และการดูแลรักษาความปลอดภัยในบ้านเป็นกิจกรรมของชายมากที่สุด ด้านการทำกิจกรรมยามว่าง กิจกรรที่นักเรียนรับรู้ว่าเป็นกิจกรรมของหญิงคือการดูละครหรือภาพยนตร์ทางโทรทัศน์ และกิจกรรมยามว่างของชายคือการดูรายการกีฬาทางโทรทัศน์ ส่วนด้านความสามารถทางวิชาการนักเรียนรับรู้ว่าผู้หญิงมีความสามารถทางวิชาการด้านการดูแลสุขภาพร่างกายและผิวพรรณ และผู้ชายมีความลามารถในความรู้เรื่องช่างมากที่สุด 2. นักเรียนหญิงมีการรับรู้บทบาทหญิงสูงกว่านักเรียนชาย อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และนักเรียนชายมีการรับรู้บทบาทชายสูงกว่านักเรียนหญิง อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 3. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายมีการรับรู้บทบาทหญิงและบทบาทชายสูงกว่านักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 4. นักเรียนหญิงในโรงเรียนหญิงล้วนและโรงเรียนสหศึกษามีการรับรู้บทบาทหญิงและบทบาทชายไม่แตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 5. นักเรียนชายในโรงเรียนชายล้วนมีการรับรู้บทบาทหญิงไม่แตกต่างจากนักเรียนชายในโรงเรียนสหศึกษา อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 แต่นักเรียนชายในโรงเรียนชายล้วนมีการรับรู้บทบาทชายสูงกว่านักเรียนชายในโรงเรียนสหศึกษา อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05