Abstract:
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเปรียบเทียบการฟื้นตัวหลังการออกกำลังกายระหว่างการนวดด้วยน้ำมันธรรมดา การนวดด้วยน้ำมันหอม และการดมน้ำมันหอม กลุ่มตัวอย่างเป็นอาสาสมัครที่เป็นนักกีฬารักบี้ฟุตบอลและฟุตบอลของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จำนวน 30 คน ทำการลุ่มแบบกำหนด ลงในการทดลองสามสภาวะคือการนวดด้วยน้ำมันธรรมดา การนวดด้วยน้ำมันหอม และการดมน้ำมันหอม โดยแต่ละสภาวะทำการทดลอง 1 ครั้งห่างกัน 1 สัปดาห์ การทดลองเริ่มต้นด้วยการจับชีพจรขณะพัก และวัดความดันโลหิตขณะพัก แล้วให้ผู้เข้ารับการทดลองเดินหรือวิ่งบนลู่กล ตามวิธีของบรูซ โดยกำหนดให้ออกกำลังกายไปจนถึงชีพจรเป้าหมายที่ 85% ของอัตราการเต้นของหัวใจสูงสุด ตามสูตรของคาร์โวเนน หลังจากนั้นให้หยุดพัก ดื่มน้ำเปล่า 250 มิลลิลิตร แล้วเช็ดตัวให้แห้ง แล้วทำการทดลอง นวดด้วยน้ำมันธรรมดา นวดด้วยน้ำมันหอม และดมน้ำมันหอม ทำการบันทึกอัตราการเต้นของหัวใจทุกนาที เป็นเวลา 30 นาที ทำการวัดความดันโลหิตในนาทีที่ 11 แล้วทำการบันทึกผลนำข้อมูลที่ได้มาวิเคราะห์ผลทางสถิติ โดยการหาค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว และการเปรียบเทียบเป็นรายคู่ตามวิธีของตูกี้-เอ จากการวิจัยพบว่าการฟื้นตัวด้วยวิธีการนวดด้วยน้ำมันธรรมดา การนวดด้วยน้ำมันหอมและการดมน้ำมันหอมมีผลทำให้อัตราการเต้นของหัวใจหลังการออกกำลังกายเป็นเวลา 30 นาที ไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ .05อย่างไรก็ตามในนาทีที่ 10 และ 11 แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ .05 เมื่อเปรียบเทียบเป็นรายคู่ในนาทีที่ 10 และ 11 พบว่าการนวดด้วยน้ำมัน หอมทำให้อัตราการเต้นของหัวใจลดลง (82.76 และ 82.33 ครั้งต่อนาที) มากกว่าการดมด้วยน้ำมันหอม (87.73 และ 87.33 ครั้งต่อนาที) อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05