Abstract:
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อนำเสนอแนวทางการจัดการเรียนการสอนเพื่อพัฒนาค่านิยมทางพุทธศาลนาของนักเรียนระดับมัธยมศึกษาในช่วงชั้นที่ 3 ในด้านเนื้อหาและวิธีการจัดการเรียนการสอน ตัวอย่างประชากรมี 3 กลุ่ม คือ ผู้เชี่ยวชาญด้านพระพุทธศาลนา 13 คน ครูผู้สอนวิชาพระพุทธศาลนา 117 คน และผู้เชี่ยวชาญด้านหลักสูตรและการเรียนการสอนพระพุทธศาสนา 10 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสอบถามจำนวน 3 ชุด วิเคราะห์ขอมูลโดยการหาค่าร้อยละค่ามัชณิมเลขคณิต และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการวิจัยพบว่า 1. เนื้อหาในสาระการเรียนรู้พระพุทธศาสนาตามหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2544 ที่เหมาะสมสำหรับนำมาใช้ในการพัฒนาค่านิยมทางพุทธศาสนา 9 ประการ ตามแนวคิดของพระธรรมปิฎก [ป.อ. ปยุตฺโต] 1.1 ด้านการให้ทาน: อนาถบิณฑิกะ นางวิสาขา ศาสนพิธีประเภททานพิธีและบุญพิธี บุญกิริยาวัตถุ 10 และพุทธศาลนสุภาษิต สุโข ปุญฺญสฺส ธุจฺจโย - การสั่งสมบุญย่อมนำสุขมาให้ 1.2 ด้านความเมตตากรุณา : สวดมนต์แปลและแผ่เมตตา 1.3 ด้านความสันโดษ: พระมหากัสสปะ มิตตวินทุกชาดก และสุวัณณหังสชาดก 1.4 ด้านความไม่ประมาท : พุทธประวัติตอนเทวทูต 4 อภิณหปัจจเวกขณ์ 5 ไตรลักษณ์ พุทธศาสนสุภาษิต อตฺตนา โจทยตฺตานํ - จงเตือนตนด้วยตน และ ปมาโท มจฺจุโน ปทํ - ความประมาทเป็นทางแห่งความตาย 1.5 ด้านการพึ่งตน : พุทธศาสนสุภาษิต อตฺตนา โจทยตฺตานํ - จงเตือนตนด้วยตน และมงคล 38 เรื่องมีศิลปวิทยา 1.6 ด้านการใช้ปัญญา : โกศล 3 ปัญญา 3 พุทธศาลนสุภาษิต นิสมฺม กรณํ เสยฺโย – ใคร่ครวญก่อนแล้วจึงทำ พระสารีบุตร พระเขมาเถรี พัฒนาการเรียนรู้ด้วยวิธีคิดแบบโยนิโสมนสิการ และพุทธศาสนสุภาษิต สุลฺสูลํ ลภเต ปณฺญํ - ผู้ฟังด้วยดีย่อมได้ปัญญา 1.7 ด้านการฝึกตน : ไตรสิกขา บุพนิมิตของมัชณิมปฏิปทา มรรคมีองค์ 8 บุญกิริยาวัตถุ 10 พุทธศาสนสุภาษิต อตฺตา หเว ซิตํ เลยโย - ชนะตนนั่นแลดีกว่า กรรมฐาน 2 และราโชวาทชาดก 1.8 ด้านการเห็นคุณค่าชีวิต : สุข 2 (กายิก. เจตสิก) สุข 2 (สามิส, นิรามิส) อัตถะ 3 แสะคิหิสุข (กามโภคีสุข 4) 1.9 ด้านความเป็นอิสระไม่ยึดติด: ไตรสิกขา ไตรลักษณ์และมรรคมีองค์ 8 2. วิธีการจัดการเรียนการสอนที่เหมาะสมสำหรับนำมาใช้ในการพัฒนาค่านิยมทางพุทธศาสนา 2.1 การกำหนดวัตถุประสงค์: ควรเน้นทั้งด้านพุทธิพิสัย จิตพิสัย และทักษะพิสัย 2.2 การสร้างบรรยากาศในการเรียนการสอน : สถานที่สอนมีความสะอาดและสงบ มีสิ่งโน้มน้าวจิตใจให้เกิดค่านิยมทางพุทธศาสนา มีพื้นที่เอื้อต่อการฝึกปฏิบัติ และปฏิสัมพันธ์อันดีระหว่างครูกับศิษย์ 2.3 การจัดกิจกรรมการเรียนการสอน : จัดกิจกรรมที่หลากหลาย เน้นนักเรียนเป็นศูนย์กลาง และเน้นการนำมาใช้ในชีวิตจริง กิจกรรมการเรียนการลอนในห้องเรียน ได้แก่ การสาธิตและฝึกปฏิบัติ การแสดงละคร การแสดงบทบาทสมมติการอภิปราย การสร้างสถานการณ์จำลอง การใช้กรณีตัวอย่าง การศึกษาค้นคว้า กิจกรรมเสริมหลักสูตรที่เหมาะสมมากที่สุด ได้แก่ โครงการกิจกรรมทางศาลนาร่วมกันระหว่างวัด โรงเรียน และชุมชน การสัมภาษณ์พระสงฆ์หรือบุคคลตัวอย่าง และการจัดค่ายคุณธรรม 2.4 สื่อการเรียนการสอน : เน้นสื่อที่สร้างความเข้าใจในสิ่งที่เป็นนามธรรม ได้แก่ นิทานชาดก ข่าว แหล่งการเรียนรู้ในชุมชน และวิทยากรที่เป็นพระสงฆ์ 2.5 การวัดและประเมินผล : เน้นการนำมาใช้ในชีวิตจริง โดยประเมินผลด้วยเครื่องมือที่หลากหลาย และเปิดโอกาลให้นักเรียน เพื่อนนักเรียน และผู้ปกครอง มีส่วนร่วมในการประเมินผล