Abstract:
การวิจัยในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนารูปแบบการเรียนแบบร่วมมือในรายวิชาพื้นฐานดนตรีนาฏศิลป์และการละคร เพื่อพัฒนาสัมพันธ์ภาวะของนักศึกษา และเพื่อเปรียบเทียบพัฒนาการของนักศึกษาระหว่างกลุ่มที่ใช้รูปแบบการเรียนรู้ที่พัฒนาขึ้นและกลุ่มที่ใช้รูปแบบการเรียนการสอนตามปกติในด้านสัมพันธภาพระหว่างบุคคล ทักษะสังคม และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน รูปแบบการเรียนแบบร่วมมือที่สร้างขึ้นมีลักษณะเด่นคือ การแบ่งนักศึกษาออกเป็นกลุ่มย่อยเริ่มจากการแบ่งนักศึกษาออกเป็นกลุ่มละ 2 คน หลังจากนั้นมีการเปลี่ยนกลุ่ม โดยแบ่งนักศึกษาออกเป็นกลุ่มละ 3, 4 และ 5 คน ตามลำดับ ส่วนการประเมินผล ใช้วิธีการที่หลากหลาย รวมทั้งการใช้วิธีการสอบแบบร่วมมือ รูปแบบการเรียนแบบร่วมมือที่ผู้วิจัยสร้างขึ้นได้รับการประเมินจากผู้ทรงคุณวุฒิ และนำไปทดลองใช้จริงกับนักศึกษากลุ่มตัวอย่างคือ นักศึกษามหาวิทยาลัยพายัพ ปีการศึกษา 2543 จำนวน 76 คน มีการประเมินประสิทธิภาพของรูปแบบการเรียนแบบร่วมมือ 3 ด้านคือ ด้านสัมพันธภาพระหว่างบุคคลประเมินโดยใช้แบบวัดระดับการยอมรับซึ่งกันและกัน และแบบวัดลักษณะส่วนบุคคล ด้านทักษะสังคมใช้แบบวัดลักษณะการพึ่งพาทางสังคม แบบวัดภาวะผู้นำ แบบวัดพฤติกรรมการจัดการกับความขัดแย้งและแบบวัดพฤติกรรมการสื่อสารด้านผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนใช้แบบทดสอบกลางภาคเรียนและปลายภาคเรียน วิเคราะห์ข้อมูลที่รวบรวมจากแบบวัดและแบบ ทดสอบโดยใช้สถิติทดสอบ ที (t-test) ผลการวิจัยสรุปได้ดังนี้ 1. หลังการทดลองนักศึกษากลุ่มทดลองมืคะแนนเฉลี่ยสัมพันธภาพระหว่างบุคคล ทักษะสังคมและผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน สูงกว่านักศึกษากลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .001 2. หลังการทดลองนักศึกษากลุ่มทดลองมีคะแนนเฉลี่ยสัมพันธภาพระหว่างบุคคล และทักษะสังคมสูงกว่าก่อนการทดลองอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .001 3. นักศึกษากลุ่มทดลองมีความกระตือรือร้นในการเรียน มีสัมพันธภาพที่ดีระหว่างกัน มีการช่วยเหลือกัน มีความรับผิดชอบในการเข้าชั้นเรียน มีความเข้าใจและสามารถจดจำสาระวิชาได้ดี มีความกล้าในการแสดงความคิดเห็น และมีความคิดสร้างสรรค์