Abstract:
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) ศึกษาลักษณะองค์การเอื้อการเรียนรู้ของหน่วยงานฝึกอบรม ภาคเอกชน ในเขตกรุงเทพมหานคร 2) ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างลักษณะองค์การเอื้อการเรียนรู้ ของหน่วยงานฝึกอบรม ภาคเอกชน ในเขตกรุงเทพฯ กับตัวแปรคัดสรร 3 ด้าน คือ ด้านการเรียนรู้ในองค์การ ด้านสภาพแวดล้อมในการทำงาน และด้านการสื่อสารในองค์การ 3) เพื่อศึกษาตัวแปรคัดสรร 3 ด้าน คือ ด้านการเรียนรู้ในองค์การ ด้านสภาพแวดล้อมในการทำงาน และด้านการสื่อสารในองค์การ ที่ร่วมกันอธิบายความแปรปรวน ของลักษณะองค์การเอื้อการเรียนรู้ของหน่วยงานฝึกอบรม ภาคเอกชนในเขตกรุงเทพฯ ประชากรเป็นเจ้าหน้าที่ฝึกอบรม ในหน่วยงานฝึกอบรม ภาคเอกชน เขตกรุงเทพมหานคร ทุกระดับชั้น จำนวน 749 คน ผลการวิจัยพบว่า 1. หน่วยงานฝึกอบรม ภาคเอกชนในเขตกรุงเทพมหานคร มีลักษณะที่สอดคล้องกับองค์การเอื้อการเรียนรู้อยู่ในระดับปานกลาง 2. ในการหาความสัมพันธ์ระหว่างลักษณะองค์การเอื้อการเรียนรู้ กับตัวแปรคัดสรรทั้ง 3 ด้าน พบตัวแปรที่มีความสัมพันธ์ทางบวกอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 จำนวน 60 ตัว 3 อันดับแรก ได้แก่ 1) ตำแหน่งผู้ช่วยผู้จัดการหน่วยงานฝึกอบรม 2) การสื่อสารในลักษณะแนวดิ่ง รูปแบบจากบนลงล่าง 3) โครงสร้างแบบรวมอำนาจ 4) หัวหน้าแบบเผด็จการ 3. การวิเคราะห์ถดถอยพหุคูณแบบปกติ (Enter Method) มีตัวแปรที่สามารถอธิบายลักษณะองค์การเอื้อการเรียนรู้ในระบบย่อยด้านพลวัตรการเรียนรู้ ด้านการปรับเปลี่ยนองค์การ ด้านการเพิ่มอำนาจแก่บุคคล ด้านการจัดการกับองค์ความรู้ และด้านการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีได้อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 จำนวน 10, 11 11, 11 และ 9 ตัว โดยตัวแปรทั้งหมดที่พบสามารถอธิบายความแปรปรวนของลักษณะองค์การเอื้อการเรียนรู้ ได้เท่ากับ 38.5%, 45.3%, 43.9%, 34.5% และ 44.5% ตามลำดับ และมีตัวแปรที่สามารถอธิบายความแปรปรวนของลักษณะองค์การเอื้อการเรียนรู้ได้ทุกระบบย่อย 1 ตัวแปร คือ หนังสือที่เป็นประโยชน์ที่สามารถใช้เรียนรู้ด้วยตนเอง 4. การวิเคราะห์ถดถอยพหุคูรแบบเพิ่มตัวแปรเป็นขั้น (Stepwise Method) มีตัวแปรที่สามารถอธิบายลักษณะองค์การเอื้อการเรียนรู้ ในระบบย่อยด้านพลวัตรการเรียนรู้ ด้านการปรับเปลี่ยนองค์การ ด้านการเพิ่มอำนาจแก่บุคคล ด้านการจัดการกับองค์ความรู้ และด้านการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี ได้อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 จำนวน 12, 17, 17, 10 และ 12 ตัวตามลำดับโดยตัวแปรที่พบในแต่ละขั้นสามารถร่วมกันอธิบายความแปรปรวนของลักษณะองค์การเอื้อการเรียนรู้ได้เท่ากับ 29.9%, 38.0%, 35.5%, 24.3% และ 36.0% ตามลำดับ และมีตัวแปรที่สามารถอธิบาจความแปรปรวนของลักษณะองค์การเอื้อการเรียนรู้ได้ทุกระบบย่อย 3 ตัวแปร คือ 1) มีสัญญาการเรียนรู้ช่วยสนับสนุนการเรียนรู้ 2) มีอินเตอร์เน็ตซึ่งเป็นเครือข่ายสื่อสารทั่วโลก ช่วยสนับสนุนการเรียนรู้ และ 3) มีหนังสือที่เป็นประโยชน์ที่สามารถใช้เรียนรู้ด้วยตนเอง