Abstract:
งานวิจัย ครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) เพื่อเปรียบเทียบผลการฝึกอบรมครู 3 รูปแบบ คือ แบบดั้งเดิม แบบใช้โรงเรียนเป็นฐานที่ใช้ครูในโรงเรียนทำหน้าที่เป็นผู้ให้การฝึกอบรม และแบบใช้โรงเรียนเป็นฐานที่ใช้ ผู้ประเมินมืออาชีพทำหน้าที่เป็นผู้ให้การฝึกอบรมและ (2) เพื่อศึกษาผลการฝึกอบรมครูแบบดั้งเดิม แบบใช้ โรงเรียนเป็นฐานที่ใช้ครูในโรงเรียนทำหน้าที่เป็นผู้ให้การฝึกอบรม และแบบใช้โรงเรียนเป็นฐานที่ใช้ผู้ประเมินมืออาชีพทำหน้าที่เป็นผู้ให้การฝึกอบรมกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ได้แก่ ข้าราชการครูสังกัด โรงเรียนอนุบาลสามเสน โรงเรียนพญาไท และโรงเรียนอนุบาลวัดปรินายกจำนวน 45 คน แบ่งเป็นกลุ่มทดลอง 2 กลุ่ม ๆ ละ 15 คน และกลุ่มควบคุม 15 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยที่ใช้เก็บข้อมูลเชิงปริมาณประกอบด้วยแบบวัดสมรรถภาพด้านการประเมินจำนวน 1 ชุด และแบบสอบถามจำนวน 2 ชุด และเครื่องมือ ที่ใช้เก็บข้อมูลเชิงคุณภาพ 3 ฉบับ คือ แบบให้คะแนนผลงาน แบบบันทึกผลการรปฏิบัติงาน และแบบสัมภาษณ์ผู้เข้ารับการฝึกอบรม ผลการวิเคราะห์ค่าเท่ากับ 0.507 มีค่าความยากระหว่าง 02 – 08 และค่าอำนาจ จำแนกตั้งแต่ 0.2 ขึ้นไป การตรวจสอบคุณภาพเครื่องมือวิจัยโดยการสร้างการใช้การวิเคราะห์องค์ประกอบเชิง ยืนยันพบว่ามีค่า ไค-สแควร์ =53.81 df = 45 P = 0.172 RMR = 0.132 GF = 0809 และ AGFI = 07.20 การวิเคราะห์ข้อมูลใช้การวิเคราะห์ด้วยสถิติบรรยายและการวิเคราะห์ความแปรปรวนร่วมพหุนามด้วยโดยโปรแกรม SPSS 11.5 for windows ผลการวิจัยสรุปได้ว่า (1) ผลการเปรียบเทียบค่าเฉลี่ยของตัวแปรผลการฝึกอบรมหลังการฝึกอบรมระหว่างรูปแบบการฝึกอบรม 3 รูปแบบโดยใช้การวิเคราะห์ความแปรปรวนร่วมพหุนาม พบว่า ตัวแปรสมรรถ ภาพด้านการประเมินแตกต่างอย่างมีระดับนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 05 เมื่อเปรียบเทียบค่าเฉลี่ยรายคู่ พบว่า รูปแบบการฝึกอบรมแบบใช้โรงเรียนเป็นฐานที่ใช้ครูในโรงเรียนทำหน้าที่เป็นผู้ในการฝึกอบรมมีค่าเฉลี่ยสูงกว่า รูปแบบการฝึกอบรมรูปแบบอื่น (2) รูปแบบการฝึกอบรมแบบโรงเรียนเป็นฐานที่ใช้ผู้ประเมินมืออาชีพทำหน้าที่เป็นผู้ให้การฝึกอบรมทำให้ครูผลิตผลงานมีปริมาณและคุณภาพสูงสุด และผลการวิจัย พบว่า หลังการ ฝึกอบรมครูที่เข้ารับการฝึกอบรมรวมทั้ง 3 รูปแบบมีทัศนคติที่ดีต่อการทำงานด้านการประเมิน และการมีการยอมรับความสามารถด้านการประเมินสูงขึ้น นอกจากนี้ยังพบว่า ครูที่เข้ารับการฝึกอบรมแบบใช้โรงเรียนเป็นฐานทั้ง 2 รูปแบบคิดว่า ตนเองได้รับประโยชน์จากการฝึกอบรมด้านการสร้างแบบประเมินที่มีความหลากหลายและการวางแผนการ ประเมินรูปแบบการฝึกอบรมแบบใช้โรงเรียนเป็นฐานมีข้อดีคือ มีการปฏิบัติจริงและมีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้