Abstract:
รายงานการวิจัย เรื่อง การใช้สัญญาแห่งการเรียนรู้ของมัลคัม โนลส์ กับนิสิตสาขาวิชาการศึกษานอกระบบโรงเรียน คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มีความประสงค์เพื่อศึกษาความคิดเห็นของนิสิตสาขาวิชาการศึกษานอกระบบโรงเรียน ที่มีต่อการใช้สัญญาแห่งการเรียนรู้ของมัลคัม โนลส์ ในด้านวัตถุประสงค์ของการเรียนรู้ ส่วนประกอบของสัญญาแห่งการเรียนรู้ และบทบาทของผู้สอนในการใช้สัญญาแห่งการเรียนรู้ เพื่อเปรียบเทียบความคิดเห็นของนิสิตวิชาการศึกษานอกระบบโรงเรียน ระหว่างนิสิตบัณฑิตศึกษา และนิสิตปริญญาตรี ที่มีต่อการใช้สัญญาแห่งการเรียนรู้ของมัลคัม โนลส์ ในด้านวัตถุประสงค์ของการเรียนรู้ ส่วนประกอบของสัญญาแห่งการเรียนรู้ และบทบาทของผู้สอนในการใช้สัญญาแห่งการเรียนรู้ และเพื่อเปรียบเทียบความคิดเห็นของนิสิตสาขาวิชาการศึกษานอกระบบโรงเรียน ระหว่างนิสิตเพศหญิง และเพศชาย ที่มีต่อการใช้สัญญาแห่งการเรียนรู้ของมัลคัม โนลส์ ในด้านวัตถุประสงค์ของเรียนรู้ ส่วนประกอบของสัญญาแห่งการเรียนรู้ และบทบาทของผู้สอนในการใช้สัญญาแห่งการเรียนรู้ เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลได้แก่ แบบสอบถามและแบบสัมภาษณ์ ประชากร คือ นิสิตสาขาวิชาการศึกษานอกระบบโรงเรียน ประจำปีการศึกษา 2543 การวิเคราะห์ข้อมูลได้ใช้สถิติเชิงพรรณา (%, xbar, S.D.) และ t-test ผลการวิจัยพบว่า 1. นิสิตสาขาวิชาการศึกษานอกระบบโรงเรียน เห็นด้วยมากที่สุด ในด้านวัตถุประสงค์ของการเรียนรู้ข้อกระทงที่ว่า สัญญาแห่งการเรียนรู้ช่วยวางแนวทางให้ผู้เรียนสามารถค้นคว้าได้ด้วยตนเอง (xbar =4.50) เห็นด้วยมาก ในด้านส่วนประกอบของสัญญาแห่งการเรียนรู้ ในข้อกระทงต่อไปนี้ แหล่งทรัพยากรต่าง ๆ ที่ผู้เรียนได้ไปศึกษาด้วนตนเองตามที่ระบุในสัญญาแห่งการเรียนรู้ มีประโยชน์ต่อการเรียนรู้ (xbar = 4.32) เห็นด้วยมากที่สุด ในด้านบทบาทของผู้สอนในการใช้สัญญาแห่งการเรียนรู้ ในข้อกระทงที่ว่า ผู้สอนเปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้มีโอกาสวางแผนทำสัญญาแห่งการเรียนรู้ด้วนตนเอง (xbar = 4.46) 2. เมื่อเปรียบเทียบความคิดเห็นระหว่างนิสิตระดับบัณฑิตศึกษา และนิสิตระดับปริญญาตรีที่มีต่อการใช้สัญญาแห่งการเรียนรู้ ในด้านวัตถุประสงค์ของการเรียนรู้ ส่วนประกอบของสัญญาแห่งการเรียนรู้ และบทบาทของผู้สอนในการใช้สัญญาแห่งการเรียนรู้ พบว่า มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ในบางประเด็น 3. เมื่อเปรียบเทียบความคิดเห็นระหว่างนิสิตเพศหญิง และนิสิตเพศชาย ที่มีต่อการใช้สัญญาแห่งการเรียนรู้ ในด้านวัตถุประสงค์การเรียน ส่วนประกอบของสัญญาแห่งการเรียนรู้ พบว่า มีความแตกต่างอย่างไม่มีนัยสำคัญสำคัญทางสถิติ ผลการเปรียบเทียบความคิดเห็นระหว่างนิสิตเพศหญิงและนิสิตเพศชาย ที่มีต่อการใช้สัญญาแห่งการเรียนรู้ ในด้านบทบาทของผู้สอนในการใช้สัญญาแห่งการเรียนรู้ พบว่า มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ในบางประเด็น