การใช้สัญญาแห่งการเรียนรู้ของมัลคัม โนลล์ กับนิสิตสาขาวิชาการศึกษานอกระบบโรงเรียน คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย : รายงานการวิจัย

อาชัญญา รัตนอุบล

dc.contributor.author	อาชัญญา รัตนอุบล
dc.contributor.other	จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. คณะครุศาสตร์
dc.date.accessioned	2008-04-29T07:14:52Z
dc.date.available	2008-04-29T07:14:52Z
dc.date.issued	2545
dc.identifier.uri	http://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/6734
dc.description.abstract	รายงานการวิจัย เรื่อง การใช้สัญญาแห่งการเรียนรู้ของมัลคัม โนลส์ กับนิสิตสาขาวิชาการศึกษานอกระบบโรงเรียน คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มีความประสงค์เพื่อศึกษาความคิดเห็นของนิสิตสาขาวิชาการศึกษานอกระบบโรงเรียน ที่มีต่อการใช้สัญญาแห่งการเรียนรู้ของมัลคัม โนลส์ ในด้านวัตถุประสงค์ของการเรียนรู้ ส่วนประกอบของสัญญาแห่งการเรียนรู้ และบทบาทของผู้สอนในการใช้สัญญาแห่งการเรียนรู้ เพื่อเปรียบเทียบความคิดเห็นของนิสิตวิชาการศึกษานอกระบบโรงเรียน ระหว่างนิสิตบัณฑิตศึกษา และนิสิตปริญญาตรี ที่มีต่อการใช้สัญญาแห่งการเรียนรู้ของมัลคัม โนลส์ ในด้านวัตถุประสงค์ของการเรียนรู้ ส่วนประกอบของสัญญาแห่งการเรียนรู้ และบทบาทของผู้สอนในการใช้สัญญาแห่งการเรียนรู้ และเพื่อเปรียบเทียบความคิดเห็นของนิสิตสาขาวิชาการศึกษานอกระบบโรงเรียน ระหว่างนิสิตเพศหญิง และเพศชาย ที่มีต่อการใช้สัญญาแห่งการเรียนรู้ของมัลคัม โนลส์ ในด้านวัตถุประสงค์ของเรียนรู้ ส่วนประกอบของสัญญาแห่งการเรียนรู้ และบทบาทของผู้สอนในการใช้สัญญาแห่งการเรียนรู้ เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลได้แก่ แบบสอบถามและแบบสัมภาษณ์ ประชากร คือ นิสิตสาขาวิชาการศึกษานอกระบบโรงเรียน ประจำปีการศึกษา 2543 การวิเคราะห์ข้อมูลได้ใช้สถิติเชิงพรรณา (%, xbar, S.D.) และ t-test ผลการวิจัยพบว่า 1. นิสิตสาขาวิชาการศึกษานอกระบบโรงเรียน เห็นด้วยมากที่สุด ในด้านวัตถุประสงค์ของการเรียนรู้ข้อกระทงที่ว่า สัญญาแห่งการเรียนรู้ช่วยวางแนวทางให้ผู้เรียนสามารถค้นคว้าได้ด้วยตนเอง (xbar =4.50) เห็นด้วยมาก ในด้านส่วนประกอบของสัญญาแห่งการเรียนรู้ ในข้อกระทงต่อไปนี้ แหล่งทรัพยากรต่าง ๆ ที่ผู้เรียนได้ไปศึกษาด้วนตนเองตามที่ระบุในสัญญาแห่งการเรียนรู้ มีประโยชน์ต่อการเรียนรู้ (xbar = 4.32) เห็นด้วยมากที่สุด ในด้านบทบาทของผู้สอนในการใช้สัญญาแห่งการเรียนรู้ ในข้อกระทงที่ว่า ผู้สอนเปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้มีโอกาสวางแผนทำสัญญาแห่งการเรียนรู้ด้วนตนเอง (xbar = 4.46) 2. เมื่อเปรียบเทียบความคิดเห็นระหว่างนิสิตระดับบัณฑิตศึกษา และนิสิตระดับปริญญาตรีที่มีต่อการใช้สัญญาแห่งการเรียนรู้ ในด้านวัตถุประสงค์ของการเรียนรู้ ส่วนประกอบของสัญญาแห่งการเรียนรู้ และบทบาทของผู้สอนในการใช้สัญญาแห่งการเรียนรู้ พบว่า มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ในบางประเด็น 3. เมื่อเปรียบเทียบความคิดเห็นระหว่างนิสิตเพศหญิง และนิสิตเพศชาย ที่มีต่อการใช้สัญญาแห่งการเรียนรู้ ในด้านวัตถุประสงค์การเรียน ส่วนประกอบของสัญญาแห่งการเรียนรู้ พบว่า มีความแตกต่างอย่างไม่มีนัยสำคัญสำคัญทางสถิติ ผลการเปรียบเทียบความคิดเห็นระหว่างนิสิตเพศหญิงและนิสิตเพศชาย ที่มีต่อการใช้สัญญาแห่งการเรียนรู้ ในด้านบทบาทของผู้สอนในการใช้สัญญาแห่งการเรียนรู้ พบว่า มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ในบางประเด็น	en
dc.description.abstractalternative	The main purpose of this research was to study opinions of Non-Formal Education students towards using a Malcolm Knowles's learning contract for individual work during the study. The other purpose was to compare opinions towards using a Malcolm Knowles's learning contract to Non-Formal Education students between undergraduate and graduate levels and between male and female students. The following areas were analyzed after completing Malcolm Knowles's learning contract at the end of courses; learning objectives, elements of the learning contract and instructor's roles. Questionnaires and interview guide were used to collect the data from 94 Non-Formal Education students of 1999 academic year. The data were analyzed by descriptive statistics (%,Xbar, S.D.) and the e-test. The finding suggested that: 1. Overall, Non-Formal Education students mostly agreed at the highest level with the utilization of a Malcolm Knowles's learning contract in the area of learning objectives: the learning contract could assist learners to improve their self-study (Xbar = 4.50(. They mostly agreed at the high level with the utilization of a Malcolm Knowles's learning contract in the area of elements of the learning contract: resources identified by learners in the learning contract were useful to their learning (Xbar = 4.32). They mostly agreed at the highest level with the utilization of Malcolm Knowles's learning contract in the area of an instructor's roles; an instructor give an opportunity to learners by the themselves (Xbar = 4.46) 2. There was a significant difference between opionions of the undergraduate and graduate Non-Formal Education students towards the areas of learning objectives, elements of the learning contract and instructor's roles at the 0.5 level on some items. 3. There was no significant difference between opinions of male and female Non-Formal Education students towards the areas of learning objectives, and elements of the learning contract. In contary result, there was a significant difference between malesand female towards the area of instructor' roles at the 0.5 level on some items.	en
dc.description.sponsorship	ทุนส่งเสริมการวิจัยเพื่อพัฒนาการเรียนการสอน ปี 2543	en
dc.format.extent	13050974 bytes
dc.format.mimetype	application/pdf
dc.language.iso	th	es
dc.publisher	จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย	en
dc.rights	จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย	en
dc.subject	โนลส์, มัลคัม	en
dc.subject	การศึกษาขั้นอุดมศึกษา	en
dc.subject	การศึกษานอกระบบโรงเรียน	en
dc.subject	การเรียนรู้	en
dc.title	การใช้สัญญาแห่งการเรียนรู้ของมัลคัม โนลล์ กับนิสิตสาขาวิชาการศึกษานอกระบบโรงเรียน คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย : รายงานการวิจัย	en
dc.title.alternative	The utilization of a Malcolm Knowles's learning contract to non-formal education students, Faculty of Education, Chulalongkorn University	en
dc.type	Technical Report	es
dc.email.author	Archanya.R@chula.ac.th