Abstract:
การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงสำรวจ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาวิธีการเรียนวิทยาศาสตร์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิทยาศาสตร์สูง ปานกลาง และต่ำ ตัวอย่างประชากรที่ใช้ในการวิจัย คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 450 คน ปีการศึกษา 2548 จากโรงเรียนในกรุงเทพมหานครจำนวน 10 โรงเรียน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ คือ แบบสอบถามวิธีการเรียนวิทยาศาสตร์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ซึ่งผู้วิจัยสร้างขึ้น วิเคราะห์ข้อมูลโดย หาค่าความถี่และร้อยละ ผลการศึกษาสรุปได้ดังนี้ 1. ด้านการเตรียมความพร้อมในการเรียน พบว่า ร้อยละ 79.68 ของนักเรียนที่มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงมีการศึกษาบทปฏิบัติการทดลองจากเอกสารประกอบการเรียนตามที่ครูมอบหมาย นักเรียนที่มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนปานกลางและต่ำใช้หนังสือ หรือเอกสารประกอบการเรียนร่วมกับเพื่อนร้อยละ 66.67 และ 66.39 ตามลำดับ 2. ด้านการเรียนในชั้นเรียน พบว่า ร้อยละ 87.17 ของนักเรียนที่มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงปฏิบัติการทดลองตามขั้นตอนที่กำหนดในเอกสารประกอบการเรียนอย่างเคร่งครัด ร้อยละ 81.56 ของนักเรียนที่มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนปานกลางสอบถามเพื่อนเมื่อไม่เข้าใจการทดลองที่ปฏิบัติ และร้อยละ 68.85 ของนักเรียนที่มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนต่ำรอฟังเฉลยปัญหา และสมมติฐานการทดลองจากครู 3. ด้านการเรียนภายหลังจากชั้นเรียน พบว่า ร้อยละ 74.33 ของนักเรียนที่มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงส่งงานที่ครูมอบหมายในเวลาที่กำหนด ร้อยละ 86.09 ของนักเรียนที่มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนปานกลางทำงานที่ครูมอบหมายร่วมกับเพื่อน ร้อยละ 59.84 ของนักเรียนที่มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนต่ำทำรายงานกลุ่มโดยให้เพื่อนช่วยเหลือ 4. ด้านการเตรียมตัวในการสอบ พบว่า ร้อยละ 66.84 ของนักเรียนที่มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงทบทวนบทเรียนก่อนสอบ ร้อยละ 50.35 ของนักเรียนที่มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนปานกลางใช้เวลาเตรียมตัวในการสอบจนกระทบเวลาพักผ่อน ร้อยละ 74.59 ของนักเรียนที่มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนต่ำทบทวนบทเรียนชีววิทยาศาสตร์โดยการเรียนพิเศษ