Abstract:
วิทยานิพนธ์เรื่อง ความสูญเปล่าทางการศึกษาอันเนื่องจากวันลาของครูโรงเรียนรัฐบาลสังกัดกรมวิสามัญศึกษา ในจังหวัดพระนคร – ธนบุรี ปี พ.ศ. ๒๕๐๘ (A Study of Wastage Arising from The Leave of Absence of Secondary Education’s Teachers in Bangkok and Dhonburi in 1965) วัตถุประสงค์ในการวิจัยครั้งนี้ผู้วิจัยมุ่งที่จะศึกษารายละเอียดในเรื่องการลาของครู ๒ ประการด้วยกันคือประการแรกครูจะลาประเภทใดมากกว่ากันและเฉลี่ยแล้วจะลาคนละกี่วันคิดเป็นเงินที่รัฐเสียไปเพราะครูที่ลาคนละเท่าไร ประการที่สองศึกาถึงองค์ประกอบบางประการอันจุมีผลทำให้การลาของครูแตกต่างกันไป ผู้วิจัยได้ทำการวิจัยโดยสุ่มตัวอย่างประชากรจากครูโรงเรียนรัฐบาลในจังหวัดพระนคร ธนบุรีเป็นจำนวน๖๐๙ คนแยกเป็นชาย ๒๑๑ คน หญิง ๓๘๙ คน ใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือในการดำเนินการวิจัยผลที่ได้นำมาหาค่าฐานนิยมแล้วคิดเป็นจำนวนร้อยละ หาค่าไคสแคว์ ผลการวิจัยจากจำนวนครูโรงเรียนรัฐบาลที่ลาในประเภทต่างๆ คือ ลาป่วย ลาคลอดบุตร ลากิจ ลาศึกษาต่อหรือดูงาน ลาอุปสมบท พบว่าครูลาป่วยมากที่สุดและรองลงมาตามลำดับคือลากิจ ลาคลอดบุตร ลาอุปสมบทและลาศึกษาต่อหรือดูงาน ซึ่งเมื่อคิดเฉลี่ยแล้วทั้งสองเพศครูจะลาคนละ ๑๐ วันต่อปี รัฐจะต้องเสียเงินไปให้เฉพาะครูที่ลาคนละ ๓๙๓.๕๐ บาทต่อปีโดยแยกเป็นครูชายคนละ ๓๖๘ บาท ครูหญิง ๔๐๑ บาทซึ่งจะเห็นได้ว่ารัฐต้องสูญเสียเงินไปให้ครูหญิงมากกว่าครูชายส่วนในเรื่ององค์ประกอบบางประการที่ทำให้การลาของครูแตกต่างกันไปนั้นพบว่ามีองค์ประกอบต่อไปนี้คือ ภาวะการสมรส จำนวนบุตร ที่อยู่อาศัย การศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม โรคประจำตัวตำแหน่งเงินเดือน รายได้ของครอบครัว รายได้พิเศษและเพศของครูใหญ่นั้นมีส่วนทำให้ครูลาแตกต่างกันไปมากกว่าอย่างอื่นเช่นในเรื่องที่อยู่อาศัยนั้นปรากฎว่าครูส่วนมากต้องอยู่บ้านเช่าและมีจำนวนวันลามากกว่าครูที่อาศัยอยู่ในบ้านประเภทอื่นๆ
ข้อเสนอแนะของการวิจัยเรื่องนี้เพื่อที่จะทำให้การลาของครูน้อยลงที่จะเป็นประโยชน์ในด้านการบริหารการศึกษาทางราชการควรจะดำเนินการในด้านต่างๆ ต่อไปนี้คือ ๑.จัดบ้านพักสำหรับครูให้มีปริมาณเพิ่มขึ้นและพอเพียง ๒.หาทางช่วยเหลือให้ครูมีรายได้เพิ่มขึ้น ๓.อนุญาติให้ครูได้ใช้เวลาที่ว่างจากการสอนไปทำธุระกิจส่วนตัวในบางครั้งบางคราวได้ ๔.ควรจัดให้มีครูสำรองไว้เพื่อสอนแทนครูที่ลา ๕.ควรให้มีการยือหยุ่นสำหรับการมาสายของครูบ้าง ทั้งนี้ให้พิจารณาเหตุและผลเป็นเกณฑ์