Abstract:
ความมุ่งหมายของการวิจัยคือเพื่อที่จะศึกษาความสัมธ์ระหว่างการอบรมเลี้ยงดูแบบการฝึกให้พึ่งตนเองพัฒนาการทางความคิดและสัมฤทธิผลทางการเรียนกลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนชายหญิงจำนวน108 คนและมารดาของเด็กในนครหลวง-กรุงเทพธนบุรี วิธีการรวบรวมข้อมูลผู้วิจัยได้นำการทดสอบตามแบบของเปียเจท์ที่ใช้วัดความสามารถในการอนุรักษ์ 4 ด้านคือ การอนุรักษ์ความยาวของไม้ 2 อัน การอนุรักษ์ความยาวของไม้หลายอัน การอนุรักษ์ของเหลวและการอนุรักษ์ปริมาตรโดยทดสอบเด็กเป็นรายบุคคลและได้ส่งแบบสอบถามการฝึกให้พึ่งตนเองซึ่ง มธุรส วีระกำแหง และ มาลา วิรุณานนท์ ได้ดัดแปลงจากแบบสอบถามของวินเทอบอททอมไปให้มารดาของเด็กตอบ ผลการวิจัย ปรากฏว่า (1) การฝึกให้พึ่งตนเองตามมาตรฐานของสังคมสูงกว่าการฝึกให้พึ่งตนแองตามพฤติกรรมจริงอย่างมีนัยสำคัญ (t = 2.14, p < .05) (2) การฝึกให้พึ่งตนเองตามมาตรฐานของสังคมของเด็กชายสูงกว่าเด็กหญิงอย่างมีนัยสำคัญ (t = 2.08, p < .05) (3) การฝึกให้พึ่งตนเองตามพฤติกรรมจริงของเด็กชายไม่แตกต่างจากเด็กหญิง (t = 1.31, p < .05) (4) การฝึกให้พึ่งตนเองตามพฤติกรรมจริงไม่มีความสัมพันธ์กับพัฒนาการทางความคิดในกลุ่มรวม (r = -.138, p < .05) และกลุ่มเด็กหญิง (r - .028, p < .05) แต่พบความสัมพันธ์ในทางลบในกลุ่มเพศชายอย่างมีนัยสำคัญ (r = -.264, p < .05) (5) การฝึกให้พึ่งตนเองตามมาตรฐานของสังคมมีความสัมพันธ์ในทางบวกกับพัฒนาการทางความคิดอย่างมีนัยสำคัญในกลุ่มรวม (r = .413, p < .01) แต่ไม่พบความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ตัวแปรนี้ในกลุ่มเพศชาย (r = -.178, p < .05) และกลุ่มเพศหญิง (r = -.145, p < .05) (6) การฝึกให้พึ่งตนเองตามพฤติกรรมรวมไม่มีความสัมพันธ์กับพัฒนาการทางความคิดในกลุ่มรวม (r = .032, p < .05) และกลุ่มเพศหญิง (r = .075, p < .05) แต่พบความสัมพันธ์ในทางลบอย่างมีนัยสำคัญในกลุ่มเพศชาย (r = -.313, p < .01) (7) พัฒนาการทางความคิดระหว่างเด็กชายและเด็กหญิงไม่แตกต่างกัน (t = 1.47, p < .05) (8) การฝึกให้พึ่งตนเองตามพฤติกรรมจริงมีความสัมพันธ์ในทางบวกกับสัมฤทธิผลทางการเรียนในกลุ่มรวม (e = .440, p < .01) แต่ไม่พบความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ตัวแปรนี้ในกลุ่มชาย (r = -.010, p < .05) และกลุ่มหญิง (r = -.049, p < .05) (9) การฝึกให้พึ่งตนเองตามมาตรฐานสังคมมีความสัมพันธ์ในทางบวกกับสัมฤทธิผลทางการเรียนในกลุ่มรวม (r = .282, p < .01) และกลุ่มเพศหญิง (r = .233, p < .10) แต่ไม่พบความสัมพันธ์ในกลุ่มเพศชาย (r = -.152, p < .05) (10) การฝึกให้พึ่งตนเองตามพฤติกรรมรวมมีความสัมพันธ์ในทางบวกกับสัมฤทธิผลทางการเรียนในกลุ่มเพศหญิง (r = .231, p < .10) แต่ไม่พบความสัมพันธ์ในกลุ่มรวม (r = .138, p < .05) และกลุ่มเพศชาย (r = -.179, p < .05) (11) พัฒนาการทางความคิดไม่มีความสัมพันธ์กับฤทธิผลทางการเรียนในกลุ่มรวม (r = -.040, p < .05) กลุ่มเพศชาย (r = .035, p < .05) และกลุ่มเพศหญิง (r = .129, p < .05)