Abstract:
การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อพัฒนากิจกรรมการศึกษานอกระบบโรงเรียนที่มีต่อทักษะอาชีพของผู้สูงอายุ ในโรงเรียนผู้สูงอายุ 2) เพื่อศึกษาผลของการจัดกิจกรรมการศึกษานอกระบบโรงเรียนที่มีต่อทักษะอาชีพของผู้สูงอายุ ในโรงเรียนผู้สูงอายุ ผู้วิจัยเก็บรวบรวมข้อมูล โดยใช้แบบสอบถามความต้องการทักษะอาชีพ แบบวัดความรู้ แบบสังเกตพฤติกรรม และการจัดสนทนากลุ่มจากผู้สูงอายุ ในโรงเรียนผู้สูงอายุ จังหวัดสิงห์บุรี โดยสรุปผลการวิจัยได้ ดังต่อไปนี้
1. การพัฒนากิจกรรมการศึกษานอกระบบโรงเรียนมีต่อทักษะอาชีพของผู้สูงอายุ ในโรงเรียนผู้สูงอายุ พบว่า ผู้สูงอายุมีความต้องการทักษะอาชีพด้านคหกรรม และอาชีพศิลปหัตถกรรมงานฝีมือและสิ่งประดิษฐ์ และกิจกรรมการวางแผนเพื่อสร้างรายได้ โดยการวางแผนลักษณะของกิจกรรมร่วมกัน และสรุปได้ว่า ควรเป็นกิจกรรมที่ยืดหยุ่นและสอดคล้องต่อความต้องการของผู้เรียน สามารถเข้าร่วมกลุ่มกับผู้อื่น และกิจกรรมก่อให้เกิดความรู้และทักษะที่เกิดจากการลงมือปฏิบัติ จากข้อมูลความต้องการทักษะอาชีพและลักษณะกิจกรรม ผู้วิจัยได้นำมาพัฒนาเป็นกิจกรรมตามแนวคิดการจัดการเรียนการสอนของโนลล์ ซึ่งกิจกรรมทักษะอาชีพของผู้สูงอายุ ในโรงเรียนผู้สูงอายุ เกิดเป็นกิจกรรมการศึกษานอกระบบโรงเรียนที่มีต่อทักษะอาชีพของผู้สูงอายุ ในโรงเรียนผู้สูงอายุ รวมทั้งสิ้น 6 กิจกรรม กระบวนการของกิจกรรม มีตามขั้นตอนดังต่อไปนี้ 1.สร้างบรรยากาศที่เอื้ออำนวยต่อการเรียนรู้ คือ จัดให้ผู้สูงอายุเคลื่อนไหวร่างกายประกอบเพลงก่อนการเริ่มกิจกรรมและกิจกรรมละลายพฤติกรรม 2.การวางแผนการเรียนรู้ร่วมกัน ผู้วิจัยได้ให้ผู้สูงอายุมีส่วนร่วมในการวางแผนกิจกรรมเพื่อเข้าใจเป้าหมายของกิจกรรมในทิศทางเดียวกัน 3.วิเคราะห์ความต้องการ เป็นข้อมูลที่ได้จากการสรุปประเด็นจากแบบสอบถามความต้องการทักษะอาชีพ 4.กำหนดวัตถุประสงค์ ผู้สูงอายุมีส่วนร่วมในการกำหนดวัตุประสงค์ และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นร่วมกัน 5.การออกแบบกิจกรรม ได้แบ่งกิจกรรมการเรียนรู้ ออกเป็น 3 ส่วน คือ 1) การเตรียมวัตถุดิบ/วัสดุ 2) การลงมือปฏิบัติกิจกรรม และ 3) การจัดตกแต่งให้สวยงาม 6.การดำเนินกิจกรรม จัดกิจกรรมตามแผนที่กำหนดไว้ โดยมีผู้สอนเป็นผู้อำนวยความสะดวก 7.การประเมินผลการเรียนรู้ เป็นการประเมินการเรียนรู้ร่วมกัน ระหว่างผู้สอน ผู้เรียนและผู้วิจัย
2. ผลของการจัดกิจกรรมการศึกษานอกระบบโรงเรียนที่มีต่อทักษะด้านอาชีพของผู้สูงอายุ ในโรงเรียนผู้สูงอายุ พบว่า กิจกรรมทักษะอาชีพทั้ง 6 กิจกรรม เป็นการจัดกิจกรรมที่เหมาะสมกับผู้สูงอายุ ทำให้ผู้สูงอายุเกิดความรู้และทักษะที่เพิ่มมากขึ้น โดยได้จากการลงมือปฏิบัติกิจกรรมด้วยตนเอง เมื่อเปรียบเทียบผลก่อนการเข้าร่วมกิจกรรมสูงกว่าหลังการเข้าร่วมกิจกรรมด้วยค่าทางสถิติอย่างมีนัยสำคัญที่ 0.05 ภายหลังเสร็จสิ้นกิจกรรมทักษะอาชีพ 30 วัน ผู้วิจัยได้ติดตามผลการสะท้อนกลับของผู้สูงอายุ พบว่า ผู้สูงอายุนำความรู้ไปพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างกลุ่มผู้สูงอายุด้วยกัน ที่แสดงให้เห็นถึงความคงทนของความรู้ที่ได้รับ นอกจากความรู้ที่ได้รับเพื่อเป็นพื้นฐานของการพัฒนาตนเอง ผู้สูงอายุในกลุ่มทดลอง ได้นำทักษะอาชีพที่ได้จากกิจกรรมการเรียนรู้ไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน เพื่อประกอบเป็นอาชีพ ในการสร้างรายได้แก่ตนเอง มีการวางแผนเพื่อออกแบบผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับแหล่งจำหน่ายสินค้า และปัจจัยอื่นๆ ที่ส่งผลต่อการวางแผนการตลาด จากนั้นจึงนำสินค้าไปจำหน่ายเพื่อสร้างรายได้ด้วยตนเอง และส่งผลพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น อีกทั้งยังช่วยให้การเงินทุนหมุนเวียนในชุมชน ช่วยพัฒนาเศรษฐกิจของชุมชนให้ดีมากยิ่งขึ้น